ณ ปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดของ COVID 19 ทั่วโลก ช่องทางการซื้อ-ขายสินค้าทางออนไลน์ก็ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ส่งผลให้ร้านค้ารายย่อยและแพลตฟอร์มการซื้อขายสินค้าขนาดเล็กต้องแข่งขันกับบริษัทค้าปลีกและแพลตฟอร์มการซื้อขายสินค้าขนาดใหญ่มากขึ้น DHL Supply Chain ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ตามสัญญาจ้างชั้นนำในเครือ Deutsche Post DHL Group จึงเข้ามาช่วยให้ผู้ค้าปลีกทางออนไลน์สามารถใช้ประโยชน์จากเครือข่ายศูนย์บริการเก็บ แพ็ค ส่งสินค้าสำหรับธุรกิจค้าขายออนไลน์ของทางบริษัทฯ ที่มีถึง 30 แห่งทั่วยุโรป อีกทั้งยังตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ใกล้กับย่านใจกลางเมืองที่สำคัญ รวมถึงศูนย์การจัดส่งพัสดุต่างๆ ศูนย์บริการของ DHL เหล่านี้มอบความเชี่ยวชาญในด้านการจัดการคำสั่งซื้อทางออนไลน์ รวมถึงรับ บรรจุ และจัดส่งสินค้าไปยังปลายทาง
ในตลาดที่มีการแข่งขันสูงเช่นนี้ ความเร็วในการจัดส่ง รวมถึงราคาของสินค้าได้เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค มีลูกค้าจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ต้องการได้รับสินค้าที่สั่งซื้อในวันรุ่งขึ้น การที่คลังสินค้าของผู้ขายอยู่ใกล้กับสถานที่รับสินค้าของผู้ซื้อจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ตอบสนองความต้องการนี้ได้ ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งที่ DHL Supply Chain มีความพร้อม จึงสามารถมอบบริการที่โดดเด่นแก่ลูกค้าได้
ศูนย์บริการของ DHL ซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางเมืองนั้นออกแบบมาให้ลูกค้าหลายรายใช้ร่วมกัน โดยผู้ค้าปลีกและหน่วยงานต่างๆ ที่ใช้กลยุทธ์การขายสินค้าโดยตรงถึงผู้บริโภค (direct-to-consumer) จะได้ประโยชน์จากเครือข่ายศูนย์บริการที่แข็งแกร่งในยุโรป และเพิ่มขีดความสามารถในการส่งมอบสินค้าได้อย่างรวดเร็วและตรวจสอบได้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติพื้นฐานที่ผู้ซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์ต้องการในปัจจุบัน ในขณะเดียวกันศูนย์บริการฯ ก็มอบความยืดหยุ่นให้กับผู้ค้าปลีก ผ่านรูปแบบการบริการที่สามารถแบ่งย่อยได้ตามความต้องการ โดยลูกค้าสามารถกำหนดขอบเขตการบริการแบ่งตามภูมิภาค และ/หรือประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการใช้งานและปริมาณคำสั่งซื้อสินค้าได้
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Airfreight Logistics เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Airfreight Logistics หรือคลิกที่นี่