AOTGA, AOT และกรมศุลกากร ผนึกกำลังเปิดตัวศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้า เชื่อมการขนส่งสินค้าทางบก ทะเล และอากาศในที่เดียว

0
93

บริษัท บริการภาคพื้นท่าอากาศยานไทย (Airport Of Thailand Ground Aviation services: AOTGA) ร่วมกับ บริษัทท่าอากาศยานไทย (Airport Of Thailand: AOT) และกรมศุลกากร จัดพิธีเปิดศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้า (Multimodal Transportation Center) ศูนย์บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศแบบครบวงจร ซึ่งมาพร้อมขีดความสามารถในการรองรับการขนส่งสินค้าต่อเนื่องหลายรูปแบบได้มากกว่า 50,000 ตันต่อปี ครอบคลุมทั้งการขนส่งสินค้าทางบก ทางราง ทางทะเล และทางอากาศ อีกทั้งยังสามารถดำเนินพิธีการศุลกากรได้อย่างครบวงจรในที่เดียว ณ เขตปลอดอากร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (โซน 3) ภายใต้เป้าหมายเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางอากาศในภูมิภาคอาเซียน ผ่านความร่วมมือกับผู้นำด้านบริการโลจิสติกส์สามบริษัท ได้แก่ FedEx, DHL และ AGS โดยภายในพิธีได้รับเกียรติจากคุณสิริวัฒน์ โตวชิรกุล ผู้จัดการใหญ่ บริษัท AOTGA และคุณพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี กรมศุลกากร เข้าร่วมพิธี

คุณสิริวัฒน์เปิดเผยว่า “กรมศุลกากรได้อนุญาตให้  AOT จัดตั้งศูนย์บริการเพื่อกระจายสินค้าแห่งนี้ พร้อมมอบหมายให้ AOTGA เป็นผู้ปฏิบัติการ ถือเป็นการผนึกกำลังครั้งสำคัญที่จะพลิกโฉมอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทยอย่างไม่เคยมีมาก่อน ผ่านการชูจุดเด่นและผนวกรูปแบบการขนส่งสินค้าทุกประเภททั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ พร้อมด้วยบริการรวมตู้สินค้า และเก็บรักษาสินค้า อีกทั้งยังสามารถดำเนินพิธีการศุลกากรได้อย่างครบวงจรในที่เดียว ถือเป็นการขยายโอกาสทางธุรกิจและสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ช เพื่อยกระดับประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ในภูมิภาคอย่างแท้จริง”

ศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้าได้รับการก่อสร้างด้วยงบลงทุนมากกว่า 150 ล้านบาท บนพื้นที่มากกว่า 4,872 ตารางกิโลเมตร โดยแบ่งพื้นที่ให้บริการเป็นสองส่วน ได้แก่ พื้นที่สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจขนส่งสินค้าภาคเอกชนที่เป็นผู้ร่วมประกอบกิจการศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้า (Fixed Area) และพื้นที่ที่ทาง AOTGA ให้บริการเอง (Public Area) ตอบสนองต่อเป้าหมายในการให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าและผู้ประกอบการธุรกิจขนส่งสินค้าทั้งในและต่างประเทศที่เป็นผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศและผู้ประกอบการของเร่งด่วน (Express Consignment) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มธุรกิจการขนส่งสินค้าทางอากาศที่มีอัตราการเติบโตที่โดดเด่นจากการใช้ประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) และให้ความสำคัญกับกลุ่มสินค้าอีคอมเมิร์ชเป็นหลักจากปัจจัยเกื้อหนุนด้านการบินและเครือข่ายการบินที่เชื่อมต่อไปยังทวีปอื่นๆ โดยเฉพาะทวีปยุโรป นอกจากนี้ AOTGA ยังได้นำนวัตกรรมที่ล้ำสมัยมาให้บริการในศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้าแห่งนี้ อาทิ ระบบติดตามทางศุลกากรจากด่านศุลกากรมายังศูนย์บริการศุลกากรเพื่อกระจายสินค้าผ่านระบบกุญแจอิเล็กทรอนิกส์ (E-lock System) และระบบควบคุมสินค้าคงคลัง (E-Inventory)

คุณพันธ์ทองเปิดเผยว่า “ศูนย์บริการเพื่อกระจายสินค้าแห่งนี้จัดตั้งขึ้นตามประกาศกรมศุลกากรที่ 115/2564 ภายใต้วัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าและเพื่อสนับสนุนการเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาคอาเซียน นับเป็นความร่วมมือที่สร้างปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ที่จะช่วยสนับสนุนกระบวนการนำเข้าและส่งออกสินค้าให้ได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งขยายขีดความสามารถด้านการแข่ง รวมถึงช่วยลดขั้นตอนและระยะเวลาในการดำเนินพิธีการทางศุลกากรด้วย”


อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Airfreight Logistics เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Airfreight Logistics หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้UPS เข้าซื้อกิจการ Frigo-Trans มุ่งยกระดับบริการโลจิสติกส์สินค้าเพื่อสุขภาพ
บทความถัดไปAGS ในเครือ Triple-i เปิดตัวคลังสินค้ารองรับการขนส่งสินค้าต่อเนื่องหลายรูปแบบในเขตปลอดอากร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ