จากเหตุการณ์วินาศกรรม เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 และการตรวจพบวัตถุระเบิดบนเครื่องบินขนส่งสินค้าจากประเทศเยเมน เมื่อปี 2010 สหภาพยุโรปได้ออกกฎเกณฑ์ควบคุมความปลอดภัยในอุตสาหกรรมการบินและซัพพลายเชนทั่วโลก โดยหนึ่งในโครงการริเริ่มคือการสร้างมาตรการความปลอดภัยขึ้นใหม่สำหรับการขนส่งสินค้าและไปรษณีย์ภัณฑ์จากประเทศนอกเครือสหภาพยุโรป ได้แก่ มาตรฐานการรับรอง ACC3 สำหรับสายการบินผู้ให้บริการขนส่ง KC3 สำหรับตัวแทนขนส่งสินค้า และ RA3 สำหรับผู้ให้บริการขนส่งสินค้าภาคพื้น
ในฐานะผู้ให้บริการขนส่งสินค้าภาคพื้นชั้นแนวหน้าของประเทศไทย บริษัท ดับบลิวเอฟเอสพีจีคาร์โก้ จำกัด ได้ก้าวเข้าสู่ปีที่หกของการรักษามาตรฐานบริการตามการประเมินความปลอดภัยเป็นตัวแทนควบคุมที่มีมาตรฐาน RA3 มาอย่างต่อเนื่อง
นิตยสาร LM ฉบับนี้ ได้รับเกียรติจาก คุณไพศาล มงคลทรัพย์กุล ผู้อำนวยการฝ่ายความมั่นคง และคุณ พินิจ นันตวรรณกุล ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการคลังสินค้า พร้อมทีมผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการคลังสินค้าและฝ่ายความมั่นคง บริษัท ดับบลิวเอฟเอสพีจีคาร์โก้ จำกัด มาให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความสำคัญของใบรับรอง RA3 ประสบการณ์ในการเตรียมเข้ารับการการประเมินการรับรองมาตรฐานในแต่ละครั้ง และอัปเดทข้อมูลเกี่ยวกับบริการ Export Delivery Slot Time ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา
Third Country EU Aviation Security validated Regulated Agent
ความปลอดภัย ถือเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดของซัพพลายเชนการขนส่ง การที่ผู้ให้บริการในแต่ละภาคส่วนของซัพพลายเชนมีมาตรการความปลอดภัยร่วมกันเป็นมาตรฐานเดียว ย่อมช่วยให้การดำเนินงานต่างๆ เป็นไปได้อย่างราบรื่น องค์กรหรือหน่วยงานที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานประเมินความปลอดภัย จึงถือเป็นผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือในอุตสาหกรรม คุณไพศาล ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับใบรับรองมาตรฐาน Third Country EU Aviation Security validated Regulated Agent หรือ RA3 ว่า
“ใบรับรอง RA3 คือเอกสารสำคัญที่แสดงว่า หน่วยงานที่ได้รับการรับรองเป็นตัวแทนควบคุม (REGULATED AGENT) นั้น มีกระบวนการควบคุม และการรักษาความปลอดภัยสินค้าหรือไปรษณีย์ภัณฑ์ทางอากาศ ตามมาตรฐานระบบการจัดการความปลอดภัยในห่วงโซ่อุปทานของยุโรป”
ทั้งนี้ สินค้าทุกชิ้นที่จัดส่งไปยังปลายทางประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ต้องได้รับการตรวจสอบด้านความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะสินค้าที่มีความหนาทึบสูงจนไม่สามารถระบุวัตถุได้ด้วยการเอ็กซเรย์ จะต้องถูกตรวจสอบด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น อุปกรณ์ตรวจจับร่องรอยของสารวัตถุระเบิด (Explosives Trace Detector) หรือการตรวจสอบทางกายภาพ (Physical Search) ว่าสินค้าดังกล่าวมิได้มีอาวุธหรือวัตถุระเบิดซุกซ่อนอยู่ ซึ่งการตรวจสอบด้วยอุปกรณ์ตรวจจับร่องรอยของสารวัตถุระเบิด หรือ การตรวจสอบทางกายภาพนั้นต้องใช้เวลาพอสมควร เนื่องจากเป็นการเปิดตรวจถึงตัวสินค้า ซึ่งหากรวมถึงขั้นตอนการนำสินค้าออกจากบรรจุภัณฑ์ที่ห่อไว้อย่างแน่นหนา และบรรจุสินค้าใส่บรรจุภัณฑ์หลังจากการตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว สินค้าเหล่านั้นอาจต้องอยู่ภายใต้กระบวนการตรวจสอบมากกว่าสามถึงสี่ชั่วโมง
ดังนั้น การที่ผู้ให้บริการภาคส่วนต่าง ๆ มีใบรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากสหภาพยุโรป จึงมีผลอย่างยิ่งต่อความสะดวกและรวดเร็วในการขนส่งสินค้า โดยคุณไพศาลได้กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า “ประโยชน์ที่จะได้รับจากการได้รับใบรับรอง RA3 ก็คือ ผู้ที่ได้รับการรับรองจะถือเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการความปลอดภัยในห่วงโซ่อุปทานของกลุ่มสหภาพยุโรป ซึ่งหากผู้ส่งออกสินค้าได้รับการรับรองเป็นผู้ส่งทราบตัวตน หรือ KC3 (Known Consignor) และตัวแทนผู้ให้บริการขนส่งสินค้า (Freight Forwarder) ได้รับการรับรองเป็นตัวแทนควบคุม หรือ RA3 (Regulated Agent) ด้วยเช่นกัน สินค้าที่มีความหนาทึบสูงและต้องถูกตรวจสอบด้วยวิธีอื่นๆ ก็จะสามารถข้ามขั้นตอนดังกล่าว และดำเนินการขนส่งไปยังสหภาพยุโรปได้เลย อันเนื่องมาจากผู้ส่งออกสินค้าได้รับสถานะ KC3 และตัวแทนผู้ให้บริการขนส่งสินค้าได้รับสถานะ RA3 ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการการจัดการด้านความปลอดภัยในห่วงโซ่อุปทานที่มีมาตั้งแต่ต้นน้ำอยู่แล้ว”
Steps to Reach EU Standard
BFS ได้รับการรับรองด้านความปลอดภัยมาแล้วจากหลากหลายหน่วยงาน อันได้แก่ การประเมินมาตรฐาน ISO 9001:2015 จากองค์การมาตรฐานสากล การประเมินมาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูงสุดจาก TAPA การประเมินระบบบริหารจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย OHSAS 18001:2007 และการประเมินมาตรฐานความปลอดภัยในการจัดการขนส่งสินค้าภาคพื้น หรือ ISAGO จากสมาคมขนส่งสินค้าทางอากาศ ผลงานเหล่านี้ แสดงให้เห็นว่า BFS เป็นผู้ให้บริการที่มีแผนงานด้านความปลอดภัยที่แข็งแกร่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การเตรียมพร้อมสำหรับการประเมินเพื่อให้ได้ใบรับรอง RA3 จึงเป็นเพียงอีกสนามหนึ่งในการตรวจสอบคุณภาพด้านความปลอดภัยของบริษัทฯ โดยคุณไพศาล ได้กล่าวถึงขั้นตอนการดำเนินงานในครั้งนี้ว่า “ขั้นตอนแรกในการขอใบรับรอง RA3 คือ การเลือกผู้ที่จะเข้ามาตรวจประเมินซึ่งได้รับการรับรองจากสหภาพยุโรป และลองประเมินหน่วยงานล่วงหน้าตามหลักเกณฑ์เดียวกันกับผู้ประเมินที่เลือกไว้ แล้วจึงทำรายการสิ่งที่จะต้องปรับปรุงแก้ไขให้สอดคล้องกับเกณฑ์การตรวจสอบ จากนั้นจึงจัดทำแผนการรักษาความปลอดภัยให้ผู้ตรวจประเมินพิจารณาล่วงหน้าและกำหนดนัดหมายเพื่อรับการตรวจประเมิน ซึ่งเป็นส่วนที่ท้าทายมากที่สุดในกระบวนการทั้งหมด”
หลังจากนั้น เมื่อผู้ให้บริการผ่านการประเมินแล้ว ผู้ตรวจประเมินจะจัดทำรายงานการตรวจสอบเพื่อนำส่งให้กับประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรปต่อไปสำหรับการขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการที่ได้รับการรับรองเป็นตัวแทนควบคุมตามมาตรฐาน RA3 ซึ่งหลังจากการขึ้นทะเบียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รายชื่อของผู้ให้บริการจะปรากฎอยู่ในฐานข้อมูลของเว็บไซต์คณะกรรมาธิการยุโรป (https://webgate.ec.europa.eu/) โดยใบรับรอง RA3 จะมีอายุสามปี และจะไม่มีการกำหนดตารางการตรวจสอบเพิ่มเติมจากสหภาพยุโรปอีก หากผู้ให้บริการยังคงรักษามาตรฐานได้ตามแบบแผนรักษาความปลอดภัยที่ระบุไว้
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า BFS จะมีขั้นตอนการปฏิบัติงานที่สอดคล้องตามกฎระเบียบและวิธีการที่ทางสหภาพยุโรประบุไว้ในแผนรักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว แต่ก็จำเป็นต้องมีหน่วยงานตรวจสอบภายในสำหรับควบคุม สอดส่อง และดูแลให้การปฏิบัติงานเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้อย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากคลังสินค้า BFS ให้บริการเป็นตัวแทนของสายการบินในการขนส่งสินค้าด้วย จึงต้องมีกระบวนการตรวจสอบความปลอดภัยด้วยเครื่องเอ็กซเรย์และเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดสำหรับสินค้าจากผู้ส่งออกสินค้าที่ไม่มีใบรับรอง KC3
ในส่วนของการฝึกอบรมพนักงานสำหรับปฏิบัติงานตามมาตรฐานใบรับรอง RA3 คุณไพศาล ได้ให้ข้อมูลว่า “BFS ให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมพนักงานในเรื่องการตระหนักรู้ด้านการรักษาความปลอดภัยของสินค้าและไปรษณีย์ภัณฑ์ทางอากาศเป็นหลัก และจัดจ้างพนักงานที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ในการทำหน้าที่ตระเวนคลังสินค้า ประจำจุดเข้า – ออก ตรวจค้นบุคคลและสัมภาระติดตัว วินิจฉัยภาพจากเครื่องเอ็กซ์เรย์และเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด”
Work Better Together
ใบรับรองมาตรฐานความปลอดภัย RA3 ไม่เพียงเป็นสิ่งที่ยืนยันความปลอดภัยในการจัดการสินค้าที่ BFS สามารถมอบให้แก่ลูกค้า แต่ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนให้กระบวนการขนส่งสินค้าทางอากาศเป็นไปได้อย่างไร้รอยต่อ โดยคุณไพศาลได้กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า “หากผู้ที่มีส่วนร่วมในซัพพลายเชนภาคส่วนอื่นๆ อาทิ ตัวแทนขนส่งสินค้าและสายการบิน ได้รับการรับรองตามมาตรฐานของสหภาพยุโรปเป็นผู้ส่งทราบตัวตน KC3 และผู้ดำเนินการเดินอากาศ ACC3 ก็จะสามารถเอื้อประโยชน์ให้กันและกัน และทำให้กระบวนการรับส่งสินค้าที่คลังสินค้ามีความคล่องตัวมากขึ้น โดยเฉพาะขั้นตอนการตรวจสอบสินค้าที่มีความหนาทึบสูง จะไม่จำเป็นต้องเปิดบรรจุภัณฑ์เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยอีก ขั้นตอนการตรวจสอบความปลอดภัยจึงน้อยกว่าและสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น เนื่องจากมีการรับรองการควบคุมความปลอดภัยมาแล้วตั้งแต่ต้นทางสินค้า”
นอกจากนี้ BFS ยังเล็งเห็นถึงปัญหาความแออัดในการลำเลียงและขนถ่ายสินค้า จึงได้พัฒนาระบบจองเวลานำส่งสินค้าผ่านทางหน้าเว็บไซต์ของ BFS หรือ ‘Export Delivery Slot Time’ เพื่อให้การนำส่งสินค้าเข้าคลังสินค้าฝั่งขาออกสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยบริษัทฯ ได้เปิดตัวระบบตัวนี้ตั้งแต่ปี 2012 และพัฒนาระบบอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการรับสินค้าจากผู้ประกอบการที่ได้รับการรับรอง KC3 และ RA3 ซึ่ง แได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า “ปัจจุบัน มีลูกค้าให้ความสนใจในบริการ Export Slot Time เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 300 เปอร์เซ็นต์ และเราได้เสนอระบบนี้ไปยังเขตปลอดอากร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อพิจารณานำข้อมูลมาใช้ร่วมกับระบบคิวรถของการท่าอากาศยานฯ ในอนาคต ซึ่งจะสามารถลดความแออัดของการจราจรในเขตปลอดอากรได้มากยิ่งขึ้นไปอีก” คุณพินิจ กล่าว ในฐานะผู้ให้บริการระดับสากลที่มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าทางอากาศ บริษัท ดับบลิวเอฟเอสพีจีคาร์โก้ จำกัด ตระหนักดีว่าความปลอดภัย ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้กระบวนการขนส่งเป็นไปอย่างราบรื่น การได้รับใบรับรอง RA3 จึงเป็นมากกว่าเรื่องของการสร้างความโปร่งใส เพราะสิ่งนี้ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งของบริษัทฯ ในการประสานประเทศไทยและท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เข้าเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานของกลุ่มสหภาพยุโรป ซึ่งส่งผลให้กระบวนการส่งออกสินค้าจากประเทศไทยสู่สหภาพยุโรปมีความลื่นไหล อีกทั้งยังทำให้แบรนด์ BFS เป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรมขนส่งสินค้าทางอากาศในวงกว้างมากขึ้นอีกด้วย
“ผมขอร่วมแสดงความยินดีอีกครั้งสำหรับผู้ประกอบการทุกรายที่ได้รับการรับรอง KC3 และ RA3 จากสหภาพยุโรป การได้รับใบรับรองเหล่านี้เป็นการแสดงให้เห็นว่า ผู้ประกอบการไทยมีความมุ่งมั่นและจริงจังในเรื่องกฏบัญญัติดังกล่าว เพื่อร่วมกันยกระดับกระบวนการตรวจสอบสินค้าให้มีความปลอดภัยตลอดห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่โรงงานการผลิตไปถึงการส่งมอบสินค้าขึ้นอากาศยาน อีกทั้งยังสร้างความมั่นใจได้ว่ากระบวนการและขั้นตอนในเรื่องความปลอดภัยของการส่งสินค้าออกจากประเทศไทยนั้นมีมาตรฐานระดับสากล” คุณพินิจ กล่าว
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Airfreight Logistics เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Airfreight Logistics หรือคลิกที่นี่