CLIVE Data Services และ TAC Index ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์และให้บริการข้อมูลสำหรับอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าทางอากาศ เผยว่าความต้องการขนส่งสินค้าทางอากาศทั่วโลกกลับมาเติบโตอีกครั้งในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลังจากที่ปรับลดลง 3 เปอร์เซ็นต์ ในเดือนมีนาคม อย่างไรก็ตามอัตราส่วนบรรทุกที่สูงยังคงทำให้ระบบการขนส่งสินค้าทางอากาศระหว่างประเทศต้องเผชิญกับแรงกดดันเป็นอย่างมาก เนื่องจากพื้นที่ระวางสินค้าซึ่งปกติแล้วจะเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูร้อนกลับไม่เพิ่มขึ้นมาเป็นปีที่สองต่อเนื่องกัน
จากข้อมูลตลาดการขนส่งสินค้าทางอากาศรายสัปดาห์และรายเดือนของ CLIVE พบว่าปริมาณสินค้าในเดือนเมษายนเพิ่มขึ้น 1 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับเดือนเมษายนปี 2019 และ 78 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปี 2020 โดยการเพิ่มขึ้นของปริมาณสินค้าในครั้งนี้เป็นทิศทางบวกต่อเนื่องจากช่วงสองเดือนแรกของปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงครึ่งหลังของเดือนเมษายนปีนี้ที่มีการเติบโตของปริมาณสินค้าสูงกว่าช่วงเดียวกันของเมื่อปี 2019 ถึง 6 เปอร์เซ็นต์
แม้ว่าจะมีปริมาณสินค้าที่ใกล้เคียงกับเดือนเมษายน ปี 2019 แต่ในปีนี้สายการบินกลับต้องเผชิญแรงกดดันในเรื่องของพื้นที่ระวางสินค้ามากขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างมาก พื้นที่ระวางโดยรวมลดลง 18 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปี 2019 เนื่องจากไม่มีพื้นที่ระวางใต้ท้องเครื่องบินโดยสารที่เพิ่มขึ้นเหมือนในปี 2019 และปีอื่นๆ ก่อนหน้า และสายการบินก็ไม่สามารถเพิ่มเที่ยวบินในช่วงฤดูร้อนเหมือนกับที่ผ่านมาจากมาตรการจำกัดการเดินทางของผู้โดยสารระหว่างประเทศในช่วงการระบาดของ COVID-19 ซึ่งยังคงมีผลบังคับใช้อยู่ อัตรา dynamic load factor จากการคำนวณของ CLIVE สำหรับช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมาจึงอยู่ที่ 71 เปอร์เซ็นต์ โดยอิงจากทั้งปริมาณและน้ำหนักของสินค้าที่ขนส่งทางอากาศ และพื้นที่ระวางสินค้าที่มีอยู่ในตลาด ซึ่งอัตราดังกล่าวนั้นสูงกว่าเมื่อปี 2019 อยู่ 10 เปอร์เซ็นต์ และสูงกว่าปี 2020 อยู่ 4 เปอร์เซ็นต์
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Airfreight Logistics เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Airfreight Logistics หรือคลิกที่นี่
