CLIVE Data Services ผู้วิเคราะห์และให้บริการข้อมูลสำหรับอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าทางอากาศ เปิดเผยข้อมูลข่าวทางการตลาด โดยระบุว่าภาวะความแออัดในการปฏิบัติการภาคพื้นดินส่งผลกระทบต่อความเติบโตของปริมาณสินค้าขนส่งทางอากาศในเดือนพฤศจิกายน ปี 2021 โดยมีปริมาณสินค้าลดลง 1.2 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา สวนทางกับแนวโน้มตามปกติของอุตสาหกรรมฯ ที่ปริมาณการขนส่งสินค้าจะเพิ่มขึ้นจากความต้องการขนส่งในช่วงเทศกาลคริสต์มาส
จากการวิเคราะห์สภาวะอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าทางอากาศตลอดเดือนพฤศจิกายน 2021 ของ CLIVE โดยเปรียบเทียบกับช่วงก่อนวิกฤต COVID-19 ในปี 2019 และปี 2020 แบบปีต่อปี เพื่อให้สามารถประเมินสภาพอุตสาหกรรมได้อย่างแม่นยำ ปริมาณสินค้าขนส่งทางอากาศที่ลดลงในเดือนที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับในเดือนตุลาคม 2021 พบว่ายังคงมีการขยายตัวของระวางการบริการที่ 0.5 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่อัตราค่าระวางปรับสูงขึ้นถึง 8 เปอร์เซ็นต์
เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2019 ปริมาณความต้องการใช้บริการหดตัวลง 3 เปอร์เซ็นต์ ในเดือนที่ผ่านมา ในขณะที่อัตราค่าระวางขนส่งสินค้าทางอากาศปรับสูงขึ้นถึง 159 เปอร์เซ็นต์ และระวางการบริการลดลง 12 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้อัตราส่วนการบรรทุกแบบไดนามิกของ CLIVE ปรับสูงขึ้น 2 เปอร์เซ็นต์ ไปอยู่ที่ 66 เปอร์เซ็นต์
“ตามปกติแล้ว ปริมาณสินค้าขนส่งทางอากาศของเดือนพฤศจิกายนจะสูงกว่าเดือนตุลาคม ทว่าปริมาณสินค้าและอัตราส่วนการบรรทุกของเดือนล่าสุดนี้แตกต่างออกไป โดยเราสังเกตว่าอัตราการขยายตัวนั้นเริ่มชะลอตัวลงในช่วงสิ้นเดือนตุลาคม ส่งผลให้อัตราส่วนการบรรทุกของเดือนพฤศจิกายนต่ำกว่าในเดือนตุลาคม 2 เปอร์เซ็นต์” Mr. Niall van de Wouw กรรมการผู้จัดการ บริษัท CLIVE กล่าว
“อย่างไรก็ตาม ความเปลี่ยนแปลงแบบเดือนต่อเดือนที่ไม่ธรรมดานี้ไม่ได้เป็นผลมาจากการหดตัวของปริมาณความต้องการใช้บริการ หากแต่ค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นผลมาจากการที่สินค้าไม่ได้รับการดำเนินการผ่านระบบอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นประเด็นปัญหาแบบเดียวกับที่พบในอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าทางทะเลในท่าเรือบริเวณชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการขาดแคลนแรงงาน ซึ่งมีผลกระทบอย่างมากต่ออุตสาหกรรมที่มีการใช้แรงงานหนาแน่นอย่างภาคการขนส่งสินค้าทางอากาศ โดยเฉพาะในส่วนของปฏิบัติการยกขนสินค้าภาคพื้นดิน นอกจากนี้ ความหนาแน่นภายในท่าอากาศยานก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรม อันเนื่องมาจากการขาดการลงทุนอย่างเหมาะสมในด้านปฏิบัติการยกขนสินค้าภาคพื้นดิน”
ทั้งนี้ การวิเคราะห์สภาวะอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าทางอากาศโดยใช้อัตราส่วนการบรรทุกแบบไดนามิกของ CLIVE หรือ ‘CLIVE’s dynamic loadfactor’ ถือเป็นการปฏิวัติวิธีการใช้ประโยชน์จากระวางการบริการขนส่งสินค้าทางอากาศ เพื่อให้สามารถสะท้อนสภาวะตามความเป็นจริงที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมของสภาพอุตสาหกรรมในปัจจุบันได้ดียิ่งขึ้น โดยอิงจากข้อเท็จจริงที่ว่าระวางการขนส่งสินค้าของสายการบินต่างๆ มักจะบรรจุสินค้าจนเต็มปริมาตรบรรทุกก่อนที่จะเต็มพิกัดน้ำหนักบรรทุก ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากปริมาตรบรรทุกของอากาศยาน มีความหนาแน่นสูงกว่าความหนาแน่นเฉลี่ยของสินค้าที่ขนส่งทางอากาศ ด้วยเหตุนี้ CLIVE จึงอธิบายว่าวิธีการคำนวณอัตราส่วนการบรรทุกแบบเดิมที่ใช้ในอุตสาหกรรมฯ ซึ่งอิงจากน้ำหนักบรรทุก ทำให้การประเมินพิกัดบรรทุกของเครื่องบินมีความคลาดเคลื่อน ส่งผลให้การวิเคราะห์ประสิทธิภาพการทำงานของอุตสาหกรรมไม่สามารถสะท้อนภาพความเป็นจริงได้อย่างถูกต้อง
รายงานข่าวทางการตลาดของ CLIVE ใช้ข้อมูลที่ถูกรวบรวมมาจากกลุ่มสายการบินระดับนานาชาติที่มีเครือข่ายการปฏิบัติการที่ครอบคลุมทั่วโลก และถือเป็นตัวแทนของอุตสาหกรรมฯ โดยใช้ฐานข้อมูลที่ประกอบด้วยทั้งน้ำหนักและปริมาตรบรรทุกสำหรับการไหลเวียนของสินค้าและระวางการให้บริการที่พร้อมใช้งาน พร้อมใช้ประโยชน์จากผลการวิเคราะห์แบบรายสัปดาห์เพื่อมอบปัจจัยชี้วัดประสิทธิภาพที่สามารถสะท้อนภาพการทำงานของตลาดที่แท้จริงในแต่ละเดือนได้อย่างรวดเร็วที่สุด
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Airfreight Logistics เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Airfreight Logistics หรือคลิกที่นี่
