DB Schenker เปิดตัว Red Lion2 พร้อมบันทึกสถิติมูลค่าการลงทุนสูงสุดในสิงคโปร์

0
392

DB Schenker จัดพิธีเบิกหน้าดินเริ่มต้นการก่อสร้างศูนย์ปฏิบัติการ ‘Red Lion2’ โดยมี Mr. Chee Hong Tat รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของสิงคโปร์ และรัฐมนตรีอาวุโสแห่งรัฐประจำกระทรวงการคลัง ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี

ศูนย์ปฏิบัติการแห่งใหม่นี้มีมูลค่าการลงทุนมากกว่า 101 ล้านยูโร สูงกว่าสถิติมูลค่าการลงทุนในสิงคโปร์สูงสุดในปี 2020 ซึ่งเป็นการพัฒนาศูนย์ปฏิบัติการ Red Lion แห่งแรก โดยคาดว่าศูนย์ปฏิบัติการแห่งใหม่นี้จะก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2025

Red Lion2 ตั้งอยู่ใน Tampines LogisPark และเป็นการผสมผสานระหว่างความเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนและนวัตกรรมตามแผนแม่บทของบริษัทฯ ในสิงคโปร์ โดยมีการสร้างสะพานลอยฟ้าเชื่อมระหว่าง Red Lion2 กับศูนย์ปฏิบัติการ SLC3 เดิม และยังทำให้ DB Schenker กลายเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์บุคคลที่สาม (3PL) ที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก โดยมีสำนักงานและศูนย์ปฏิบัติการในสิงคโปร์มากกว่า 16 แห่ง และมีพื้นที่ปฏิบัติการในสิงคโปร์รวมมากกว่า 3.97 ล้านตารางฟุต ครอบคลุมพื้นที่โครงการ Tampines LogisPark, Airport Logistics Park of Singapore (ALPS) และ Changi South Business Park

Dr. Niklas Wilmking ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท DB Schenker ประจำเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “Red Lion2 เป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นที่เรามีต่อสิงคโปร์และภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยศูนย์ปฏิบัติการแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งในระบบนิเวศโลจิสติกส์ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเราในฐานะศูนย์กลางการปฏิบัติการสำคัญเชิงกลยุทธที่มีความยั่งยืนสำหรับลูกค้าและเครือข่ายระดับโลกของเรา เราลงทุนโดยมีจุดประสงค์อย่างชัดเจน ไม่เพียงเพื่อสร้างความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับขยายให้กับซัพพลายเชนของลูกค้า แต่ยังเป็นการขับเคลื่อนการปรับกระบวนการทำงานสู่ระบบดิจิทัล ความยั่งยืน และความคล่องตัวของเครือข่าย ผ่านแนวความคิดริเริ่มที่ล้ำหน้าและทันสมัยในอุตสาหกรรม”

Mrs. Catherine Soo ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ประจำสิงคโปร์และมาเลเซีย กล่าวว่า “ทีมงานของเราร่วมมือกับลูกค้าและหน่วยงานภาครัฐของสิงคโปร์ อาทิ EDB และ JTC อย่างใกล้ชิด ในการผลักดันการพัฒนาศูนย์ปฏิบัติการแห่งนี้ให้เกิดขึ้น เราจำเป็นต้องสร้างความแตกต่างในการออกแบบ รวมถึงการปรับใช้พื้นที่และขั้นตอนการทำงาน ซึ่งส่งผลให้เกิดการพัฒนาสะพานลอยฟ้าเชื่อมระหว่างศูนย์ปฏิบัติการทั้งสองแห่งใน Tampines LogisPark สำหรับ Red Lion2 แทนที่จะใช้ทางลาดแบบปกติ นอกจากนี้ เรายังติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ให้กับศูนย์ปฏิบัติการทั้งหมดของเรา ทำให้เรามีศูนย์ปฏิบัติการด้านโลจิสติกส์ที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ และสามารถผลิตพลังงานได้มากเกินกว่าความจำเป็นในการใช้งานอีกด้วย”


อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Airfreight Logistics เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Airfreight Logistics หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้Maersk ปฏิวัติวงการอีคอมเมิร์ซอินเดียด้วยโซลูชัน ‘One Country, One Price’
บทความถัดไปWFS ลงทุนพัฒนาอาคารปฏิบัติการสินค้าแห่งที่ 5 ใน Madrid