DB Schenker ร่วมมือกับ Microsoft Cloud Logistics ในการใช้เชื้อเพลิงการบินแบบยั่งยืน (SAF) และเชื้อเพลิงเดินทะเลแบบยั่งยืน (SMF) มุ่งลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนต่อสิ่งแวดล้อมจากการขนส่งสินค้า โดยความมุ่งมั่นในครั้งนี้ยังครอบคลุมถึงการสร้างคลังสินค้าโลจิสติกส์ที่ดีที่สุดและปรับใช้รถบรรทุกพลังงานทางเลือก แสดงให้เห็นถึงก้าวสำคัญในการลดการปล่อยคาร์บอนที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการโลจิสติกส์ (Scope 3) เมื่อเทียบกับการขนส่งสินค้าโดยใช้เชื้อเพลิงแบบดั้งเดิม
Mr. Jochen Thewes ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท DB Schenker กล่าวว่า “Microsoft และ DB Schenker เป็นสองบริษัทผู้นำระดับโลกที่จับมือกันเพื่อลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนในอุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์ คาดว่าการร่วมมือกันของเราจะสามารถลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (CO2e) จากการขนส่งระหว่างทวีปในซัพพลายเชนปัจจุบัน อีกทั้งการยกระดับคลังสินค้าในเนเธอร์แลนด์ให้ได้ระดับ BREEAM Excellent และศูนย์ปฏิบัติการ SuperHub ใน Illinois สหรัฐอเมริกา ซึ่งได้ใบรับรอง LEED Platinum Certification ยังถือเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่แสดงให้เห็นความทุ่มเทที่มีต่อโซลูชันโลจิสติกส์แบบยั่งยืนและทันสมัย”
Mr. Cliff Henson รองประธานกรรมการ บริษัท Microsoft Cloud Supply Chain กล่าวว่า “Microsoft Cloud Logistics มีความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำโลจิสติกส์แบบยั่งยืน โดยการร่วมมือกันระหว่างเราและ DB Schenker ช่วยพัฒนาคลังสินค้าให้มีความยั่งยืนและทันสมัย ร่วมกับกลยุทธ์การใช้เชื้อเพลิงในทุกรูปแบบการขนส่ง แสดงให้เห็นความมุ่งมั่นในการกำหนดมาตรฐานในอุตสาหกรรมสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน ความพยายามในส่วนนี้ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญที่ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สอดคล้องตามความมุ่งมั่นตามเป้าหมายปี 2030 ของ Microsoft”
ทั้งนี้ เชื้อเพลิงการบินและเชื้อเพลิงเดินทะเลแบบยั่งยืนจะได้รับการจัดหาโดย DB Schenker และใช้ในการเคลื่อนย้ายชิปเมนท์ขาเข้าของ Microsoft Cloud Logistics ทั้งทางอากาศและทางทะเล โดยคาดว่าจะช่วยลดการปล่อยคาร์บอนเทียบเท่าได้อย่างน้อย 15.000 ตันต่อปี นอกจากนี้ เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2024 บริษัท DB Schenker ยังได้ปรับใช้อเชื้อเพลิงดีเซลหมุนเวียน (Hydrogenated Vegetable Oil: HVO) สำหรับชิปเมนต์ทางทะเลทั้งหมดที่ขนส่งจาก California ไปยัง Texas อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น DB Schenker ยังได้ขยายความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนเรื่องสิ่งแวดล้อมร่วมกับ Microsoft Cloud ครอบคลุมการขนส่งสินค้าภาคพื้นในยุโรปและอเมริกาเหนือ โดยได้ก่อตั้งสถานีเชื้อเพลิง HVO ทั้งหมด 100 แห่ง ควบคู่ไปกับการใช้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Airfreight Logistics เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Airfreight Logistics หรือคลิกที่นี่
