ในช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองส่งท้ายปี 2019 คงไม่มีใครจินตนาการว่าปี 2020 จะกลายเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ท้าทายที่สุดของมนุษยชาติในรอบหลายทศวรรษ เมื่อการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อผู้คนทั่วโลก ทั้งในด้านการใช้ชีวิตและเศรษฐกิจ
โดยหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโรคระบาดอย่างรุนแรงมากที่สุดก็คงไม่พ้นอุตสาหกรรมการบิน เนื่องจากทันทีที่รัฐบาลทั่วโลกสั่งปิดน่านฟ้าและห้ามไม่ให้มีการเดินทางข้ามประเทศ เครื่องบินพาณิชย์เกือบทั้งหมดก็ต้องงดการปฏิบัติการแทบจะทันทีเช่นกัน ทำให้เศรษฐกิจโลกและอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าทางอากาศได้รับผลกระทบอย่างหลักเลี่ยงไม่ได้ กอปรกับซัพพลายเชนที่หยุดชะงักและกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นใหม่ในทุกวัน ส่งผลให้ผู้ให้บริการต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ เนื่องจากพื้นที่ระวางการขนส่งสินค้าทางอากาศในอุตสาหกรรมกว่าครึ่งมาจากพื้นที่ห้องเก็บสัมภาระใต้ท้องเครื่องบินโดยสาร
อนึ่ง เนื่องด้วยประเทศไทยนั้นเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ การขนส่งสินค้าทางอากาศจำนวนมากจึงต้องพึ่งพาเที่ยวบินโดยสาร การลดลงของเที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออกทำให้ไทยได้รับผลกระทบมากกว่าประเทศอื่นๆ การค้นหาโซลูชันใหม่ในการแก้ปัญหาดังกล่าวจึงเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง
หนึ่งในบริษัทที่รับมือกับวิกฤตการณ์นี้ได้คือ DB Schenker Thailand ซึ่งฟันฝ่าอุปสรรคและข้อจำกัดมากมาย และพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส อีกทั้งยังสามารถบรรลุเป้าหมายธุรกิจขณะที่ทั่วทั้งโลกถูกล็อคดาวน์
นิตยสาร AFL ฉบับนี้ จึงถือโอกาสพูดคุยกับคุณไพศาล อิ่งศิริวัฒน์ ผู้อำนวยการแผนกสินค้าทางอากาศ ประเทศไทย พม่า และสปป.ลาว และคุณกันธิมา มงคลเกียรติพร ผู้อำนวยการฝ่ายขาย ประเทศไทย พม่า และสปป.ลาว จาก DB Schenker ประเทศไทย เกี่ยวกับแนวทางการปรับตัวเพื่อให้สอดรับกับสภาพตลาดที่เปลี่ยนไป รวมทั้งการพัฒนาบริการใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดในภาวะวิกฤต และที่สำคัญคือความสำเร็จขององค์กรท่ามกลางภาวะแห่งความท้าทายที่ทั้งอุตสาหกรรมไม่เคยประสบมาก่อน
Adapt to the Crisis
จากมาตรการห้ามเดินทางข้ามประเทศทำให้เที่ยวบินโดยสารที่มายังประเทศไทยถูกยกเลิก และระวางสินค้าทางกาศหายไปทันทีกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบไปยังบริษัทที่ต้องการขนส่งสินค้าเข้า-ออก ประเทศไทยด้วยเครื่องบินขนส่งสินค้าเช่นกัน เนื่องจากระวางสินค้าแต่เดิมที่มีอยู่ไม่มากนั้นถูกจองจนเต็ม ส่งผลให้อุปสงค์มีมากกว่าอุปทาน จนค่าระวางสินค้าทางอากาศดีดตัวสูงขึ้น ทำให้ผู้ขนส่งสินค้าต่างประสบปัญหาในการนำเข้าและส่งออก DB Schenker Thailand จึงได้ทุ่มเทในการทำงานและวางแผนกลยุทธ์เพื่อหาทางออกให้แก่อุตสาหกรรม
“ทันทีที่ราคาพื้นที่ระวางปรับตัวสูงขึ้นอย่างกะทันหันในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ฝ่ายบริหารได้หารือกันภายในและตัดสินใจที่จะตรึงอัตราค่าบริการเอาไว้เท่าเดิมต่อไปอีกหกสัปดาห์ เพื่อให้ลูกค้าของเรามีเวลาตั้งตัวและเตรียมรับอัตราค่าบริการที่จะปรับสูงขึ้นอย่างมาก และในระหว่างนั้นเราก็ได้ชี้แจงกับลูกค้าถึงความเปลี่ยนแปลงของตลาด ซึ่งลูกค้าของเราก็เข้าใจกันเป็นอย่างดี จากการพิจารณาขีดความสามารถในการให้บริการของเราว่า เราสามารถให้บริการในเส้นทางใดบ้างในช่วงเวลาที่ไม่ปกติเช่นนี้ เราจึงตัดสินใจมุ่งเน้นการให้บริการในเส้นทางการค้ายุโรป” คุณกันธิมา กล่าว
DB Schenker ได้ใช้เครือข่ายที่กว้างขวางในยุโรปในการกระจายสินค้า และหันมาเน้นการให้บริการในตลาดดังกล่าวพร้อมกับให้บริการขนส่งสินค้าต่อเนื่องหลายรูปแบบเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า อีกทั้งยังได้ลงทุนเช่าเหมาลำเครื่องบินขนส่งสินค้าอีกด้วย โซลูชันที่ยืดหยุ่นและความพร้อมในการปรับตัวนี้ ทำให้บริษัทฯ สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างเหนือระดับ
From Consolidator to Solution Provider
ตลอดช่วงเวลาวิกฤตที่ผ่านมา DB Schenker ไม่เพียงแค่ปรับกระบวนธุรกิจเพื่อให้สอดรับกับสภาพอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนไป แต่ยังทุ่มเทสนับสนุนลูกค้าผู้ประกอบการอย่างเต็มที่เพื่อรักษาธุรกิจของลูกค้าให้สามารถดำเนินต่อไปได้ พวกเขาจึงผันตัวจากผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทั่วไปมาเป็นพันธมิตรที่ปรึกษา ที่จะใช้ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการขนส่งเพื่อทำให้มั่นใจว่าซัพพลายเชนของลูกค้าจะดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและราบรื่นมากที่สุด
“เราได้ใช้เครือข่ายบริการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อขนส่งสินค้าจากโรงงานผลิตต่างๆ ในประเทศไทยรวมถึงประเทศเพื่อนบ้านโดยรถบรรทุก แล้วรวบรวมสินค้าในกรุงเทพ และส่งออกด้วยเครื่องบินขนส่งสินค้าผ่านเที่ยวบินเช่าเหมาลำ” คุณไพศาล กล่าว
“ยกตัวอย่างเช่น ลูกค้าผู้ส่งออกเสื้อผ้าแฟชั่นรายหนึ่งซึ่งมีฐานการผลิตกระจายอยู่ในประเทศเพื่อบ้าน เราได้แนะนำให้ลูกค้านำสินค้ามารวบรวมไว้ที่กรุงเทพ ผ่านบริการเครือข่ายการขนส่งข้ามพรมแดน เนื่องจากเราเห็นขนาดของบรรจุภัณฑ์และน้ำหนักต่อหีบห่อของสินค้าที่หลากหลาย จากนั้นเราก็รวบรวมสินค้าเหล่านี้ขึ้นบนเครื่องบินเช่าเหมาลำของลูกค้าเอง ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว เราช่วยให้ลูกค้าสามารถประหยัดค่าขนส่งได้เพิ่มถึง 17 เปอร์เซ็นต์ ในพื้นที่ระวางเท่าเดิม ซึ่งทำให้ลูกค้ารู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก”
นอกจากนี้ DB Schenker ยังได้ปรับโฉมการดำเนินงานโดยเข้าไปทำงานร่วมกับลูกค้าอย่างใกล้ชิด รวมไปถึงการศึกษาพื้นฐานธุรกิจของลูกค้า เพื่อปรับให้เหมาะสมสอดคล้องกับเงื่อนไขด้านการขนส่งที่เปลี่ยนแปลงไป อาทิ การปรับบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสมกับการขนส่งมากยิ่งขึ้น การเลือกและแนะนำประเภทของเครื่องบินให้เหมาะสมกับปริมาณและประเภทสินค้า การแนะนำท่าอากาศยานปลายทางที่เหมาะสมเพื่อให้สินค้าไปถึงปลายทางอย่างรวดเร็วและประหยัดที่สุด รวมทั้งให้คำแนะนำในการเลือกรูปแบบการขนส่งที่เหมาะสมกับระยะเวลาและงบประมาณของลูกค้ามากที่สุด
“อีกหนึ่งตัวอย่าง เราได้ให้คำแนะนำการปรับขนาดและฐานของบรรจุภัณฑ์ เพื่อที่ในการโหลดสินค้าต่อแผ่นได้จำนวนมากขึ้นจากการที่ทีมงานมีความรู้เกี่ยวกับเครื่องบิน (Aircraft) )และการจัดการตู้ ULD (ULD Contour) ให้กับผู้ขนส่งสินค้าอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่รายหนึ่ง ผลที่ได้จากการปรับขนาดหีบห่อ นอกจากทางผู้ส่งจะประหยัดจากค่า pivot charge บนเที่ยวบินทั่วไปเนื่องจากทำน้ำหนักต่อแผ่นได้มากขึ้นแล้ว ยังสามารถลดจำนวนเทียวบินแบบเหมาลำลงจากการปรับขนาดหีบห่อครั้งนี้ด้วย ทำให้ลูกค้าประหยัดได้ค่าใช้จ่ายโดยรวมมากกว่า 15 เปอร์เซนต์” คุณไพศาล กล่าว
“ครั้งหนึ่งลูกค้าของเราต้องการขนส่งสินค้าไปยังเมือง Hamburg ซึ่ง ณ เวลานั้นไม่มีเที่ยวบินว่าง ทีมงานของเราได้แก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว โดยนำเสนอทางเลือกแก่ลูกค้าให้ขนส่งสินค้าไปยังเมือง Amsterdam จากนั้นจึงใช้เครือข่ายขนส่งทางถนนในยุโรปเพื่อจัดส่งสินค้าไปยังปลายทางโดยรถบรรทุก ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณลูกค้าที่ให้ความร่วมมือกับเราอย่างเต็มที่ จึงทำให้ทีมปฏิบัติงานได้อย่างรวดเร็ว และนำส่งสินค้าได้ถึงปลายทางที่ลูกค้าต้องการ” คุณ Ingsiriwat เสริม
Success All-round
แม้วิกฤตการแพร่ระบาดของ COVID-19 จะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าทางอากาศอย่างรุนแรง แต่ในช่วงเวลาดังกล่าว DB Schenker ประเทศไทย กลับสามารถพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส และเป็นสาขาเดียวในภูมิภาคที่สามารถสร้างผลงานได้ตามเป้าหมายที่กำหนดเอาไว้ตั้งแต่ช่วงก่อนเกิดวิกฤต
คุณกันธิมา กล่าวว่า “นับตั้งแต่วิกฤต COVID-19 เกิดขึ้น เราได้ตั้งเป้าหมายร่วมกันภายในองค์กรเพียงประการเดียว คือการสนับสนุนลูกค้าให้ดีที่สุด ด้วยการมอบบริการที่มีประสิทธิภาพและโซลูชันที่ดีที่สุด ทำให้ทุกคนในองค์กรต่างมองไปที่เป้าหมายเดียวกัน ทั้งทีมฝ่ายขายและฝ่ายปฏิบัติการจึงทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดและสอดประสานยิ่งกว่าเดิม เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากที่สุด”
ปัจจัยสำคัญเบื้องหลังความสำเร็จในครั้งนี้ คือการพลิกบทบาทจากผู้ให้บริการขนส่งสินค้ามาเป็นพันธมิตรที่ปรึกษาที่พร้อมจะมอบโซลูชันที่ใช่ที่สุดสำหรับลูกค้าแต่ละรายโดยเฉพาะ อนึ่ง การทุ่มเททำงานและรักษาสายสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าทุกราย ทำให้บริษัทฯ สามารถเจรจากับลูกค้าได้อย่างยืดหยุ่น และส่งเสริมให้บุคลากรและลูกค้าพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นได้
แม้ว่าในบางกรณี DB Schenker อาจไม่ได้เสนอราคาที่ดีที่สุดในตลาด แต่ผลประโยชน์ที่ลูกค้าได้รับโดยภาพรวมกลับมีคุณค่าเหนือกว่าอัตราราคาที่อาจแตกต่างกันเพียงไม่มาก และการที่บริษัทฯ ยังคงตรึงราคาไว้ตามสัญญาแม้ว่าค่าระวางจะพุ่งสูงขึ้น นับเป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นถึงความซื่อสัตย์และเสริมความเชื่อมั้นให้แก้ผู้ให้บริการ ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการมากที่สุดในช่วงเวลาเช่นนี้
“เราไม่ได้นำเสนอบริการที่มีราคาถูกที่สุด แต่เรามอบโซลูชันที่มีความยืดหยุ่นให้แก่ลูกค้า แน่นอนว่าราคายังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาเลือกใช้บริการจากผู้ให้บริการโลจิสติกส์ แต่ลูกค้าที่มีวิสัยทัศน์ตรงกันกับเราจะมองเห็นถึงประเด็นอื่นๆ ที่นอกเหนือไปจากด้านราคา ทั้งคุณภาพการให้บริการ ความน่าเชื่อถือ ความรับผิดชอบ รวมไปถึงความราบรื่นของกระบวนการตลอดทั้งซัพพลายเชน ซึ่งการมอบโซลูชันที่แตกต่างเหล่านี้ทำให้บริการของเราประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก”
ขวบปีที่ผ่านมา แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่ DB Schenker ประเทศไทย ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า พวกเขาสามารถเอาชนะอุปสรรคและบรรลุผลประกอบการที่เกินความคาดหวัง โดยในปี 2020 ที่ผ่านมา DB Schenker ประเทศไทยสามารถประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมาย
ทั้งหมดเป็นเพราะการทุ่มเท การทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างทีมงาน และความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะมอบบริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า พร้อมกับโครงสร้างธุรกิจที่มั่นคงและประสบผลสำเร็จอย่างดี
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Airfreight Logistics เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Airfreight Logistics หรือคลิกที่นี่