DHL Express ขนส่งวัคซีน Pfizer และสารทำให้เจือจางล็อตแรกสู่ฟิลิปปินส์ รับมือ COVID-19

0
868

DHL Express ประกาศความสำเร็จในการขนส่งวัคซีน COVID-19 ไปยังฟิลิปปินส์ โดย DHL Express ได้ดำเนินการเที่ยวบินขนส่งวัคซีนจากเบลเยียมไปยังฟิลิปปินส์ ขณะเดียวกันก็ได้ดำเนินการขนส่งสารทำให้เจือจางสำหรับวัคซีนจากโรงงานผลิตในสหรัฐอเมริกาไปยังคลังสินค้าที่ได้รับการรับรองในฟิลิปปินส์หนึ่งวันก่อนที่วัคซีนจะเดินทางไปถึง

Mr. Francisco Duque III เลขาธิการกรมอนามัยแห่งฟิลิปปินส์ กล่าวว่า “เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ DHL ให้บริการขนส่งวัคซีนและสารทำให้เจือจางที่ได้รับบริจาคเพิ่มเติมในโครงการ COVAX มาถึงที่หมายอย่างปลอดภัย โดยวัคซีนเพิ่มเติมเหล่านี้จะมีความสำคัญอย่างมากในการให้วัคซีนแก่ประชากรที่มีความเสี่ยงสูงภายในประเทศ และในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเราก็จะได้รับวัคซีนมากขึ้น ขอให้พวกเราเชื่อมั่นในประสิทธิภาพของวัคซีนและในวิทยาศาสตร์ ด้วยการร่วมมือกัน เราจะสามารถข้ามผ่านอุปสรรคในครั้งนี้และกลับมายืนหยัดในฐานะประเทศได้อีกครั้ง”

ทั้งนี้ วัคซีนได้รับการขนส่งในบรรจุภัณฑ์ควบคุมอุณหภูมิที่ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ และแต่ละชิปเมนท์ได้รับการบรรจุน้ำแข็งแห้งเพื่อช่วยควบคุมอุณหภูมิอีกชั้น ทำให้สามารถขนส่งไปยังสถานที่ที่อาจไม่มีโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะในการควบคุมอุณหภูมิที่ต้องการได้ นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิ พร้อมเทคโนโลยีระบุตำแหน่ง (GPS) ด้านในบรรจุภัณฑ์ทุกกล่อง เพื่อให้สามารถติดตามข้อมูลของแต่ละชิปเมนท์ได้ตลอดเส้นทางการขนส่ง

Mr. Ken Lee ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท DHL Express ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “จากเคส COVID-19 ภายในประเทศที่ทะลุหนึ่งล้านเคสเมื่อไม่นานมานี้ ฟิลิปปินส์เร่งดำเนินการจัดเตรียมวัคซีนอย่างเร่งด่วน โดยถึงขั้นที่บุคลากรทางการแพทย์ออกไปดำเนินการฉีดวัคซีนถึงบ้านให้แก่ผู้ที่ไม่สามารถออกจากบ้านได้ ทั้งนี้ ในฐานะผู้ให้บริการขนส่งสินค้าด่วนชั้นนำระดับโลก เราภาคภูมิใจที่ได้ใช้ความสามารถและเครือข่ายของเราในการขนส่งสินค้าช่วยชีวิตนี้ ภายใต้ข้อบังคับด้านโลจิสติกส์ที่เคร่งครัด ไปยังฟิลิปปินส์ได้สำเร็จ ทั้งนี้ เรามีความมุ่งมั่นในการสนับสนุนรัฐบาลฟิลิปปินส์ให้ก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ได้ รวมทั้งปฏิบัติการตามเป้าหมายขององค์กรเราที่ว่า ‘Connecting People, Improving Lives’ หรือ ‘เชื่อมโยงผู้คน ยกระดับชีวิต’”

มีผู้เชี่ยวชาญด้านชีววิทยาศาสตร์และการดูแลสุขภาพมากกว่า 9,000 ชีวิตที่ทำงานในเครือข่ายระดับโลกของ DHL เพื่อให้สินค้าเภสัชภัณฑ์ เครื่องมือทางการแพทย์ การวิจัยทางคลินิก และองค์กรวิจัย รวมทั้งผู้ค้าส่งและผู้จัดจำหน่าย โรงพยาบาลและผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพ เชื่อมโยงถึงกันได้ในห่วงโซ่คุณค่านี้ และผ่านกระบวนการทำงานแบบดิจิทัลในทุกๆ ขั้นตอนนับตั้งแต่การวิจัยทางคลินิกไปจนถึงศูนย์ดูแล

Ms. Nurhayati Abdullah ผู้จัดการประจำประเทศฟิลิปปินส์ บริษัท DHL Express Philippines กล่าวว่า “การระบาดของ COVID-19 ยังคงส่งผลกระทบต่อเนื่องต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของผู้คน เราอยู่ในจุดที่มีความได้เปรียบในการร่วมมือกับกรมอนามัยในการสร้างผลกระทบเชิงบวก โดยการนำชิปเมนท์วัคซีนชุดแรกเข้ามาในประเทศ เป้าหมายสำคัญที่สุดของเราคือ การทำให้มั่นใจว่าวัคซีนจะเข้าถึงกลุ่มคนที่ต้องการ และเรามั่นใจว่า เครือข่ายที่ครอบคลุมของเราและประสบการณ์ของเราทำให้เราเป็นองค์กรที่เหมาะในการรับมือความท้าทายระดับโลกในครั้งนี้”

อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Airfreight Logistics เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Airfreight Logistics หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้WFS เปิดอาคารสินค้าใหม่ที่ท่าอากาศยาน Atlanta แห่งแรกในรอบ 30 ปี
บทความถัดไปTurkish Cargo เดินหน้าปฏิบัติการขนส่งเภสัชภัณฑ์ หนุนภารกิจต้านภัย COVID-19 ทั่วโลก