DHL Express ประสบความสำเร็จในการส่งมอบวัคซีน Pfizer-BioNTech ที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาบริจาคให้แก่มาเลเซียจำนวนประมาณหนึ่งล้านโดส ไปยังปลายทางได้อย่างราบรื่น โดยวัคซีนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจของสหรัฐอเมริกาที่มีเป้าหมายในการช่วยเหลือให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลกฟื้นฟูจากวิกฤต COVID-19 อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเพื่อการเข้าถึงวัคซีนระดับโลก หรือโครงการ COVAX ที่มีวัตถุประสงค์ในการช่วยให้ทั่วโลกสามารถสร้างภูมิคุ้มกันจากโควิดได้อย่างเท่าเทียมกัน
DHL Express ดำเนินการรับวัคซีนจากคลังเก็บวัคซีนในสหรัฐอเมริกา ก่อนที่จะนำวัคซีนขนส่งทางอากาศจากศูนย์กระจายสินค้า Cincinnati Hub ใน Cincinnati ไปยัง DHL Express Subang Gateway ในมาเลเซีย ซึ่งเป็นที่ที่วัคซีนจะถูกส่งต่อไปยังปลายทางต่างๆ ที่กำหนด ใน Kuala Lumpur การปฏิบัติการทั้งหมดนี้ใช้เวลาเพียงสี่วัน และเป็นการดำเนินงานที่ตรงตามข้อกำหนดด้านการยกขนสินค้า และการจัดเก็บที่เข้มงวดอย่างสมบูรณ์
เครือข่ายการดำเนินงานระดับโลกของ DHL มีผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพและการดูแลสุขภาพมากกว่า 9,000 คน ดังนั้นจึงมีระบบเชื่อมต่อเภสัชภัณฑ์ อุปกรณ์การแพทย์ การวิจัยเชิงทดลองทางคลินิก และหน่วยงานด้านการวิจัย ผู้ค้าส่ง และผู้จัดจำหน่าย รวมถึงโรงพยาบาล และผู้ให้บริการดูแลสุขภาพทั่วทั้งห่วงโซ่คุณค่า พร้อมการดำเนินการด้วยกระบวนการแบบดิจิทัล ตั้งแต่ขั้นตอนการวิจัยเชิงทดลองทางคลินิกไปจนถึงจุดให้การดูแลรักษา รวมถึงทุกขั้นตอนในระหว่างนี้
DHL มีส่วนในบริการสำหรับอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพซึ่งประกอบด้วยเภสัชกรกว่า 150 คน ศูนย์การวิจัยเชิงทดลองทางคลินิกมากกว่า 20 แห่ง สถานประกอบการที่ได้รับการรับรองมากกว่า 100 แห่ง คลังสินค้ามาตรฐาน GDP มากกว่า 160 แห่ง และสถานประกอบการที่ได้มาตรฐาน GMP มากกว่า 15 แห่ง ศูนย์บริการด่วนทางการแพทย์มากกว่า 135 แห่ง และเครือข่ายการขนส่งด่วนระหว่างประเทศที่รับประกันการขนส่งตามเวลาที่กำหนดที่ครอบคลุมมากกว่า 220 ประเทศ และเขตการปกครอง
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Airfreight Logistics เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Airfreight Logistics หรือคลิกที่นี่