เป็นที่ทราบกันดีว่าในช่วงที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ราคาพื้นที่ระวางสินค้าบนเครื่องบินมีการปรับตัวสูงขึ้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากเครื่องบินโดยสารส่วนใหญ่ต้องหยุดให้บริการ ทำให้พื้นที่ระวางสินค้ามีจำกัด
ด้วยเหตุนี้ DHL Global Forwarding ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเลและทางอากาศในเครือ Deutsche Post DHL Group จึงเปิดตัวบริการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบสำหรับผู้นำเข้าสินค้าจากยุโรปในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
โดยการขนส่งช่วงแรกจะเป็นการขนส่งทางอากาศมายังศูนย์กระจายสินค้าในสิงค์โปร์หรือฮ่องกง ก่อนที่จะขนส่งต่อมายังออสเตรเลียหรือนิวซีแลนด์ด้วยโหมดการขนส่งทางเรือ ซึ่งบริการดังกล่าวสามารถลดค่าใช้จ่ายได้สูงสุดถึง 60 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับการขนส่งทางอากาศโดยตรง เช่นเดียวกับระยะเวลาการขนส่งที่ลดลงสูงสุดถึง 60 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับการขนส่งทางทะเลเพียงอย่างเดียว
Mr. Charles Kaufmann ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DHL Global Forwarding ประจำภูมิภาคเอเชียเหนือและแปซิฟิกใต้ และรักษาการผู้อำนวยการ DHL Global Forwarding ประจำประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า “ตอนนี้หลายๆ ประเทศเริ่มฟื้นตัวอย่างช้าๆ จากการแพร่ระบาดของ COVID-19 เราพบว่าความต้องการสินค้าอื่นๆ ที่ไม่ใช่สินค้าจำเป็นและเครื่องมือทางการแพทย์กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และธุรกิจท้องถิ่นในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ต้องการทางเลือกในการขนส่งสินค้า เพื่อทดแทนการขนส่งทางอากาศโดยตรง”
“ด้วยเครือข่ายระดับโลกที่แข็งแกร่ง รวมทั้งความเชี่ยวชาญในระดับท้องถิ่น ทำให้เราสามารถคิดค้นโซลูชันที่เหมาะสมให้กับลูกค้าได้ ซึ่งรวมไปถึงบริการ Europe-Pacific AIR-SEA เพื่อช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถฟื้นฟูกิจการในภาวะ New Normal นี้ได้”
ปัจจุบัน ยุโรปเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับที่สองของออสเตรเลีย ด้วยมูลค่าการส่งออกสินค้ากว่า 40,000 ล้านยูโรในปี 2016 ขณะที่นิวซีแลนด์นำเข้าสินค้าจากยุโรปเป็นมูลค่ากว่า 8,700 ล้านยูโรในปี 2018
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Airfreight Logistics เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Airfreight Logistics หรือคลิกที่นี่