DHL Supply Chain Thailand ส่งโซลูชั่นโลจิสติกส์แบบดิจิทัลหนุนอีคอมเมิร์ซ

0
2933

DHL Supply Chain ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ชั้นนำระดับโลก ตอกย้ำสถานะผู้นำธุรกิจด้าน Contract logistics ในเมืองไทย นำเสนอระบบนิเวศเพื่อธุรกิจอีคอมเมิร์ซแบบครบวงจร เพื่อมอบมาตรฐานการดำเนินงานชั้นเลิศแก่ลูกค้า ตอบรับการเติบโตอย่างรวดเร็วของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และความต้องการระบบการดำเนินงานด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ ของผู้ประกอบการ เพื่อให้ธุรกิจดำเนินอย่างราบรื่นและต่อเนื่อง

งานวิจัยโดยทีม DHL Global ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นของลูกค้าผู้ประกอบการจำนวนมากในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงประเทศไทย ที่คาดหวังจะได้รับโซลูชั่นชั้นเยี่ยมจากพันธมิตรธุรกิจโลจิสติกส์ภายนอก (3PL) โดยระบุปัจจัยสำคัญ 3 ประการที่ประกอบการเลือกผู้ให้บริการทางโลจิสติกส์ นั่นคือ มีการใช้เทคโนโลยี นวัตกรรมและการวิเคราะห์ข้อมูล ความสามารถในการให้บริการช่วงที่ธุรกิจมีความหนาแน่น และความยืดหยุ่นของเครือข่ายการกระจายสินค้า

Mr. Kevin Burrell ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร DHL Supply Chain กลุ่มธุรกิจประเทศไทย (ประเทศไทย เวียดนาม กัมพูชา และเมียนมาร์) กล่าวว่า “DHL ถือเป็นผู้นำในการนำเสนอโซลูชั่นโลจิสติกส์มาโดยตลอด และในวันนี้เรามีความพร้อมที่จะนำเสนอบริการที่ดีที่สุดเพื่อให้ลูกค้าของเราได้รับประโยชน์สูงสุดสำหรับการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ความหลากหลายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกทำให้เกิดความท้าทายขึ้นมากมาย และความต้องการต่อธุรกิจอีคอมเมิร์ซของภูมิภาคกำลังเพิ่มสูงขึ้น โซลูชั่นด้านโลจิสติกส์ที่ยอดเยี่ยมของเรา ซึ่งครอบคลุมทั้งรถขนส่ง ระบบเทคโนโลยีไอที คลังสินค้าสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ (e-Fulfillment Center) ทีมงานผู้เชี่ยวชาญ คลังสินค้า โซลูชั่นการขนส่ง และอุปกรณ์และเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับยานพาหนะขนส่ง จะช่วยให้ลูกค้าคงความได้เปรียบทางการแข่งขันอยู่เสมอ”

ข้อมูลจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ระบุว่าอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซของไทยมีอัตราการเติบโตสูงสุดที่ 14 เปอร์เซ็นต์ ในกลุ่มประเทศอาเซียนเมื่อปี 2018 โดยคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดในธุรกิจอีคอมเมิร์ซของไทยจะเพิ่มขึ้นไปที่ 103,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และนำไปสู่โอกาสการเติบโตราว 20 เปอร์เซ็นต์ ในปีนี้ แนวโน้มที่เพิ่มสูงขึ้นนี้เกิดจากความเชื่อมั่นในช่องทางการชำระเงินระบบดิจิทัล และการเพิ่มขึ้นของแพลตฟอร์มธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เพื่อรองรับจำนวนผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตในประเทศไทยที่เพิ่มสูงขึ้นถึง 4 เท่าในรอบทศวรรษที่ผ่านมา การขยายตัวอย่างต่อเนื่องของธุรกิจอีคอมเมิร์ซยังทำให้เกิดความต้องการด้านการส่งมอบสินค้าและบริการโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงในระบบซัพพลายเชนและการปฏิบัติงานด้านโลจิสติกส์ในประเทศไทย

DHL พัฒนาการดำเนินงานและบริการอย่างต่อเนื่อง ผ่านกระบวนการทำงานที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมทั้งในส่วนคลังสินค้าและการขนส่ง เพื่อให้ลูกค้าผู้ประกอบการสามารถใช้งานโซลูชั่นการขนส่งสินค้าระดับโลกได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ DHL ยังสนับสนุนธุรกิจของผู้ประกอบการด้วยคลังสินค้าสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ (e-Fulfillment Center) ที่สามารถปรับแต่งพื้นที่และรูปแบบบริการได้อย่างยืดหยุ่นเพื่อตอบสนองความต้องการทางธุรกิจ โซลูชั่นการขนส่งสินค้า บริการเสริมต่างๆ และการคิดค้นนวัตกรรมด้านโลจิสติกส์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งปฏิบัติงานผ่านการสนับสนุนซัพพลายเชน องค์ความรู้ และประสบการณ์ของ DHL ซึ่งเป็นปัจจัยหลักในการส่งมอบความสำเร็จในธุรกิจอีคอมเมิร์ซของลูกค้า

อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Airfreight Logistics เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Airfreight Logistics หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้สู่ความสำเร็จทศวรรษที่ห้าในฐานะผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจร Yusen Logistics Thailand
บทความถัดไปEmirates SkyCargo ครบรอบห้าปีการให้บริการไปยังเบลเยียมและนอร์เวย์