DSV Panalpina เผยเป้าหมายใหญ่ในการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

0
1127

DSV Panalpina ผู้ให้บริการโซลูชันการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ชั้นนำ เผยเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามแนวทางของโครงการ Science Based Targets ที่อิงตามหลักภูมิอากาศศาสตร์ โดยจำกัดอุณหภูมิที่สูงขึ้นจากภาวะโลกร้อน ไม่ให้สูงกว่าระดับอุณหภูมิในช่วงก่อนยุคอุตสาหกรรมเกิน 2 องศาเซลเซียส  

สำหรับเป้าหมายของ DSV Panalpina นั้น บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตามขอบเขต 1 และ 2 ของแนวทางดังกล่าวลง 40 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี 2030 โดยขอบเขต 1 เป็นการปล่อยก๊าซโดยตรงจากแหล่งที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของหรือควบคุม ส่วนขอบเขต 2 เป็นการปล่อยก๊าซทางอ้อม จากการสร้างไฟฟ้า ไอน้ำ ความร้อน หรือความเย็นจากแหล่งกำเนิดที่บริษัทฯ จัดซื้อมา ทั้งสองขอบเขตนี้เป็นการปล่อยก๊าซจากแหล่งที่มา อย่าง สำนักงาน คลังสินค้า และรถยนต์ของบริษัท นอกจากนี้ยังจะดำเนินการลดการปล่อยก๊าซตามขอบเขต 3 ลง 30 เปอร์เซ็นต์ ภายในปีเดียวกัน โดยขอบเขต 3 คือการปล่อยก๊าซทางอ้อมในลักษณะอื่นๆ ที่ไม่รวมอยู่ในขอบเขต 2 เช่น การปล่อยก๊าซจากการขนส่งสินค้าแบบจ้างเหมาช่วง

ในปี 2019 กลุ่มบริษัทฯ มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวมทั้งสิ้น คิดเป็นปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (CO2e) 16 ล้านตัน โดยส่วนใหญ่มาจากปฏิบัติการขนส่งสินค้าแบบจ้างเหมาช่วง ซึ่งทำให้ทาง DSV Panalpina ต้องดำเนินการอย่างใกล้ชิดร่วมกับผู้รับเหมาช่วง เช่น สายการเดินเรือ สายการบิน และบริษัทขนส่งด้วยรถบรรทุก ในการบรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซดังกล่าว

ทั้งนี้ ในปัจจุบัน DSV Panalpina ได้ร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับทั้งซัพพลายเออร์และลูกค้า ในการนำโซลูชันที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้นและตัวเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้นมาใช้งาน โดยลูกค้าจะได้รับบริการที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในซัพพลายเชน ทั้งในแง่ของต้นทุนและความยั่งยืน เช่น การขนส่งสินค้าแบบรวบรวมสินค้า และการเพิ่มประสิทธิภาพทั้งในโหมดการขนส่งสินค้า เส้นทาง และบรรจุภัณฑ์ต่างๆ เป็นต้น

อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Airfreight Logistics เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Airfreight Logistics หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้Maersk SPL สนับสนุนภารกิจสู้วิกฤตโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา
บทความถัดไปGulf Air เริ่มปฏิบัติการเที่ยวบินตรงเชื่อมกรุง Athens และ Cairo อีกครั้ง