FedEx เปิดตัวสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ในสิงคโปร์ มุ่งยกระดับการปฏิบัติการโลจิสติกส์

0
332

FedEx เปิดตัวสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ในสิงคโปร์ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา (AMEA) โดยสำนักงานใหญ่แห่งใหม่นี้ตั้งอยู่ในอาคาร Centennial Tower พร้อมพื้นที่ 2,694 ตร.ม. และได้รับการออกแบบโดยให้ความสำคัญกับความยั่งยืนโดยเฉพาะ ผ่านการใช้วัสดุที่ได้รับการรับรองผลิตภัณฑ์ก่อสร้างสีเขียวรับรองผลิตภัณฑ์ก่อสร้างสีเขียวของสิงคโปร์ ราว 80 เปอร์เซนต์ นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าประหยัดพลังงานและหลอดไฟระบบอัตโนมัติเพื่อลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าด้วย

สำหรับพิธีเปิดสำนักงานแห่งใหม่นี้ได้รับเกียรติจากผู้เข้าร่วมงานระดับกิตติมศักดิ์หลายท่าน อาทิ Dr. Vivian Balakrishnan รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสิงคโปร์ Mr. Jonathan Kaplan เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำสิงคโปร์ Mr. Png Cheong Boon ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจ (Economic Development Board:EDB) ของสิงคโปร์ รวมถึงคณะผู้บริหารระดับโลกของบริษัท FedEx ได้แก่ Mr. Raj Subramaniam ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท FedEx Corporation และ Mr. Richard W. Smith ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่าย Airline and International บริษัท FedEx Express

Dr. Vivian Balakrishnan กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ต้อนรับสำนักงานใหญ่แห่งใหม่ในภูมิภาค AMEA ของ FedEx ซึ่งถือเป็นการเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศสิงคโปร์ในฐานะศูนย์กลางทางการค้า โลจิสติกส์ และเครือข่ายในระดับโลก อีกทั้งการเปิดสำนักงานใหญ่แห่งใหม่นี้ยังสะท้อนให้เห็นว่าสิงคโปร์มีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับซัพพลายเชนระดับโลกด้วย”

ปัจจุบัน สิงคโปร์ถือเป็นศูนย์กลางของ FedEx South Pacific โดยทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางสำหรับการปฏิบัติการในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และศูนย์ FedEx Life Science Center ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการส่งมอบโซลูชันการจัดการห่วงโซ่สินค้าควบคุมอุณหภูมิสำหรับกลุ่มธุรกิจสินค้าเพื่อสุขภาพโดยเฉพาะ รวมไปถึงศูนย์ Asia Pacific Security Operations Center (APSOC) ซึ่งปฏิบัติการติดตามเหตุการณ์เร่งด่วน พร้อมดูแลด้านความปลอดภัยของทรัพย์สินของ FedEx และลูกค้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยตลอด 24 ชม.


อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Airfreight Logistics เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Airfreight Logistics หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้WFS ลงนามสัญญาสามปีร่วมกับ Air China Cargo ให้บริการจัดการยกขนสินค้าภาคพื้นใน Los Angeles
บทความถัดไปEmirates SkyCargo จัดงานแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับอนาคตของการขนส่งสินค้าทางอากาศภายในงาน MC13