Geek+ ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันเทคโนโลยีหุ่นยนต์สำหรับอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ เผยถึงก้าวใหม่ในการส่งเสริมความยั่งยืนด้านโลจิสติกส์ โดยจากข้อมูลการติดตามผลภายในของบริษัทฯ พบว่าในปี 2022 หุ่นยนต์ทั้งหมด 30,000 ตัวของบริษัทฯ ที่ได้มีการนำไปใช้ทั่วโลกนั้นได้ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนลงได้ถึง 140,000 ตัน และประหยัดพลังงาน 16 ล้านกิโลวัตต์ต่อชั่วโมง การคำนวณดังกล่าวอิงจากการใช้พลังงานโดยเฉลี่ยจากการดำเนินงานด้านคลังสินค้ามาตรฐาน โดยเทียบกับคลังสินค้าที่ใช้ระบบหุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ (AMR)
โซลูชันของ Geek+ ช่วยให้ผู้ค้าปลีกและผู้ให้บริการโลจิสติกส์สามารถดำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน และร่วมมือกันเพื่อเสริมสร้างซัพพลายเชนทั่วโลกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น โดยหุ่นยนต์ของ Geek+ ได้เข้ามาแทนที่อุปกรณ์ด้านโลจิสติกส์ที่บริโภคพลังงานสูง อีกทั้งยังช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้า ไฟส่องสว่าง และเครื่องปรับอากาศในคลังสินค้า เนื่องจากหุ่นยนต์สามารถปฏิบัติงานได้แม้อยู่ในที่มืด นอกจากนี้ ตัวหุ่นยนต์เองยังใช้พลังงานน้อย และมีอายุการใช้งานของแบตเตอรี่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมฯ ถึง 60 เปอร์เซ็นต์อีกด้วย
ทั้งนี้ Geek+ มีการดำเนินงานด้านความยั่งยืนที่มุ่งเน้นในสองด้าน ได้แก่ 1) การช่วยให้ลูกค้าบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วคลังสินค้าอัจฉริยะที่ใช้ระบบอัตโนมัติ AMR จะใช้พลังงานน้อยลง 75 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับคลังสินค้าที่ปฏิบัติการโดยบุคลากร ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการที่หุ่นยนต์อัตโนมัติช่วยให้สามารถประหยัดพื้นที่ และไม่ต้องการระบบไฟส่องสว่าง การทำความร้อน หรือเครื่องปรับอากาศภายในพื้นที่จัดเก็บ เกิดของเสียน้อยลงเนื่องจากมีอัตราการเกิดข้อผิดพลาดที่ต่ำ ใช้ปริมาณบรรจุภัณฑ์ลดลง และเป็นคลังสินค้าที่ดำเนินงานได้แบบไร้เอกสาร และ 2) การดำเนินการตามหลักการด้านความยั่งยืนในสายการผลิตของ Geek+ โดย Geek+ พัฒนาชิ้นส่วนหุ่นยนต์ที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้สูงสุดถึง 80 เปอร์เซ็นต์ แบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานยาวนาน และร่วมดำเนินการกับพันธมิตรด้านการรีไซเคิลแบตเตอรี่ พร้อมวางแผนงานด้านโลจิสติกส์อย่างชาญฉลาดตลอดกระบวนการผลิต
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Airfreight Logistics เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Airfreight Logistics หรือคลิกที่นี่