DHL Express ประกาศเปิดตัวบริการ GoGreen Plus ซึ่งจะช่วยลูกค้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งของตัวเอง (carbon inset) ผ่านการใช้เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน (SAF) โดยได้เริ่มเปิดให้บริการในสหราชอาณาจักรก่อนเป็นแห่งแรก ก่อนจะตามด้วยประเทศอิตาลี เดนมาร์ก สวีเดน แคนาดา ออสเตรเลีย แอฟริกาใต้ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการ GoGreen Plus ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ MyDHL+ ได้อย่างยืดหยุ่นสำหรับการจัดส่งแต่ละรายการ และจะขยายขอบเขตการให้บริการครอบคลุมทั่วโลกภายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับแต่งการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างสอดคล้องกับเป้าหมายของแต่ละองค์กร
บริการ GoGreen Plus ใหม่นี้เป็นความร่วมมือระหว่าง DHL, bp และ Neste ในการจัดหาเชื้อเพลิง SAF สำหรับศูนย์ปฏิบัติการของ DHL Express ทั่วโลก โดยนวัตกรรมเชื้อเพลิงใหม่นี้ผลิตขึ้นจากน้ำมันเหลือทิ้ง ซึ่งสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงอากาศยานทั่วไป
การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งภายในองค์กร (carbon inset) ผ่านการใช้บริการ GoGreen Plus จะช่วยให้ลูกค้าสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทางอ้อมที่เกิดขึ้นในห่วงโซ่มูลค่าของบริษัท รวมถึงการขนส่งและการกระจายสินค้า (Scope 3) ตามแนวทางมาตรฐาน ISO 14064-1 ได้จากการลดการปล่อยมลภาวะในกระบวนการโลจิสติกส์ ซึ่งสามารถนำไปใช้ประกอบในรายงานการปล่อยมลภาวะภาคสมัครใจ รวมถึงเป็นไปตามมาตรฐานทางวิทยาศาสตร์ขององค์กร Science Based Target Initiative (SBTi) ด้วย
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Airfreight Logistics เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Airfreight Logistics หรือคลิกที่นี่