A.P. Moller – Maersk เปิดตัวเกตเวย์ขนส่งสินค้าทางอากาศใน Miami ให้บริการตลาดสหรัฐอเมริกา เอเชีย และละตินอเมริกา

0
102

A.P. Moller – Maersk (Maersk) ขยายปฏิบัติการขนส่งสินค้าทางอากาศด้วยการให้บริการโซลูชันศูนย์ปฏิบัติการเกตเวย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าเต็มรูปแบบใน Miami เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยศูนย์ปฏิบัติการแห่งใหม่ช่วยเน้นย้ำความมุ่งมั่นของ Maersk ในการให้บริการเชื่อมต่อไปยังตลาดหลักอย่างลาตินอเมริกาได้อย่างราบรื่นและยกระดับข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน โดยศูนย์ปฏิบัติการเกตเวย์ใน Miami จะเป็นที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ในเครือข่ายขนส่งสินค้าทางอากาศระดับโลกของ Maersk

“การขยายบริการไปยัง Miami ถือเป็นการตัดสินใจที่สำคัญและช่วยเสริมกลยุทธ์ให้เครือข่ายเกตเวย์ระดับโลกของเรา ช่วยอำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อจากเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกาไปยังละตินอเมริกา” Mr. John Wetherell หัวหน้าระดับโลก ฝ่าย Air Freight Forwarding บริษัท Maersk กล่าว

ศูนย์ปฏิบัติการแห่งใหม่จะเน้นให้บริการขนถ่ายสินค้าในยุโรปและเอเชียไปยังละตินอเมริกา ผ่าน Miami โดยมีข้อได้เปรียบในด้านพื้นที่ระวางสินค้าบนเครื่องบินขนส่งสินค้าและเครื่องบินผู้โดยสาร โดยศูนย์ปฏิบัติการนี้จะช่วยสนับสนุนตลาดส่งออกของอเมริกาเหนือและเอเชียมีซัพพลายเชนเชื่อมต่อละตินอเมริกาผ่านเส้นทางขนส่งสินค้าในสหรัฐอเมริกาที่มีข้อได้เปรียบด้านราคา

ศูนย์ปฏิบัติการดังกล่าวปฏิบัติการโดยผู้เชี่ยวชาญ Maersk Air Freight มีพื้นที่ 90,000 ตารางฟุต โดยศูนย์ปฏิบัติการแห่งนี้ได้ใบรับรองที่สำคัญหลายรายการ อาทิ U.S. Customs bonded Container Freight Station (CFS) และ Certified Cargo Screening Facility (CCSF)

Mr. Brent Mayhew หัวหน้าระดับภูมิภาค แผนก Air Freight ประจำอเมริกาเหนือ ได้เน้นย้ำถึงประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับเมื่อขนส่งสินค้าที่มีความอ่อนไหวด้านเวลาและมีมูลค่าสูง โดยกล่าวว่า “การเพิ่มเกตเวย์ Miami เข้าในเครือข่ายเกตเวย์ระดับโลกของเราทำให้ลูกค้าได้รับมูลค่าเพิ่มขึ้น ช่วยยกระดับเส้นทางการค้าในเครือข่ายเกต์เวย์ของเรา รวมถึงสามารถเข้าถึงการเชื่อมต่อทางรถบรรทุกผ่านเครือข่ายสถานีรับจัดการสินค้าในอเมริกาเหนือ ช่วยการันตีว่าจะเข้าถึงโซลูชันแบบครบวงจรที่มีประสิทธิภาพและน่าเชื่อถือ”

Mr. Fabio Acerbi หัวหน้าระดับภูมิภาค แผนก Air Freight ประจำละตินอเมริกา กล่าวว่า “เกตเวย์ใน Miami ของเราช่วยมอบทางเลือกต่างๆ ที่สามารถคาดการณ์เวลาขนถ่ายสินค้าจากเครือข่ายระดับโลกของเราได้ พร้อมยกระดับความสามารถในการเชื่อมต่อ เพิ่มความยืดหยุ่นและความน่าเชื่อถือ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนตลาดส่งออกของอเมริกาเหนือและเอเชีย อีกทั้งยังช่วยเพิ่มโอกาสใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้าของเราในละตินอเมริกาด้วย”


อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Airfreight Logistics เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Airfreight Logistics หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้Lufthansa Cargo เพิ่มท่าอากาศยาน Monterrey สู่ตารางบินขนส่งสินค้า พร้อมขยายเครือข่ายการขนส่งสินค้าใต้ท้องเครื่องสู่อเมริกาเหนือ
บทความถัดไปDHL Group ขยายโครงการ GoHelp ในยุโรป จัดฝึกอบรมทีมรับมือภัยพิบัติ ณ ท่าอากาศยาน Istanbul