DHL Global Forwarding นำเสนอข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับแพลตฟอร์มการบริการลูกค้าแบบดิจิทัล ‘myDHLi’ ภายในงาน myDHLi Digital Summit ครั้งที่สาม ซึ่งจัดขึ้นใน Munich ประเทศเยอรมนี ซึ่งจะช่วยลูกค้าในการยกระดับประสิทธิภาพ ความยืดหยุ่น และความยั่งยืนของกระบวนการด้านโลจิสติกส์ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมของอุตสาหกรรมที่เต็มไปด้วยความผันผวนไม่แน่นอน โดยนับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2020 ปัจจุบันแพลตฟอร์ม myDHLi มีลูกค้าใช้บริการเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 16,000 ราย
“เรากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน ลูกค้าของเราต้องเผชิญกับความท้าทายที่แตกต่างหลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการขนส่ง บทบาทของเราในฐานะผู้ให้บริการโลจิสติกส์คือการบริหารจัดการความไม่แน่นอนและความซับซ้อนเหล่านี้ และช่วยลูกค้าของเราในการยกระดับประสิทธิภาพ ความยืดหยุ่น และความยั่งยืนด้านโลจิสติกส์สู่ระดับสูงสุด ความเชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์และดิจิทัลของเราถูกนำมาผนวกรวมเอาไว้ใน myDHLi ซึ่งได้ช่วยให้ลูกค้ากว่า 16,000 ราย สามารถฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ท่ามกลางช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนนี้ได้” Mr. Tim Scharwath ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการสินค้า บริษัท DHL Global Forwarding กล่าว
โดย myDHLi สามารถช่วยยกระดับประสิทธิภาพและผลิตภาพแก่ลูกค้า จากการออกแบบเพื่อให้เป็นโซลูชันแบบครบวงจร จึงสามารถตอบสนองความต้องการด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ทั้งหมดของลูกค้าได้บนแพลตฟอร์มเดียว ฟังก์ชัน Follow+Share ช่วยลดความซับซ้อนด้านการสื่อสาร โดยสามารถกำหนดค่าการส่งการแจ้งเตือน รวมถึงสามารถรับบทสรุปรายวันได้อีกด้วย ฟังก์ชันการจองบริการช่วยให้ลูกค้าที่ใช้อัตราค่าบริการแบบตามสัญญาสามารถจองบริการได้โดยตรงผ่านพอร์ทัล myDHLi โดยไม่จำเป็นต้องส่งอีเมล โทรศัพท์ หรือผนวกรวมระบบการทำงานผ่าน API และสามารถทำการจองจนเสร็จสมบูรณ์ได้ในหกขั้นตอนง่ายๆ พร้อมแนบเอกสารเข้ากับการจองแต่ละรายการ รวมถึงอัปโหลดเอกสารเพิ่มเติมได้ตลอดเวลา เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการค้นหา
ในด้านความยืดหยุ่นของกระบวนการโลจิสติกส์ myDHLi ช่วยมอบทัศนวิสัยและความโปร่งใสในสามมิติ ได้แก่ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ต้นทุน และระยะเวลาการขนส่งสินค้า ตัวเลือกการแสดงผลข้อมูลคำสั่งซื้อใหม่จะให้ภาพรวมของคำสั่งซื้อ และในอีกไม่ช้า ลูกค้าก็จะได้รับความโปร่งใสเพิ่มเติมจากข้อมูลคำสั่งซื้อรวม (PO) ไปจนถึงรายละเอียดสำหรับรายการสั่งซื้อแต่ละรายการ (SKU) พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลเข้ากับรายการการจัดส่งที่เกี่ยวข้อง และในกรณีที่เกิดการหยุดชะงักก็จะสามารถดำเนินการแก้ไขได้ทันที
ในด้านความยั่งยืน ลูกค้าสามารถจองบริการ GoGreen Plus ผ่านฟังก์ชัน Quote + Book ของ myDHLi และลดการปล่อยคาร์บอนในกระบวนการขนส่งโดยการเลือกใช้เชื้อเพลิงที่ยั่งยืน หน้าจอแดชบอร์ด GoGreen ใน myDHLi Analytics ยังช่วยแสดงข้อมูลรอยเท้าคาร์บอนทั้งหมด โดยสามารถแบ่งประสิทธิภาพตามโหมดการขนส่ง และแบ่งตามเส้นทางการค้าได้ด้วย
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Airfreight Logistics เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Airfreight Logistics หรือคลิกที่นี่