สายการบิน Qatar Airways Cargo ประกาศเปิดตัวศูนย์ดูแลสัตว์มีชีวิต ‘Animal Centre’ และกลับมาให้บริการ ‘Next Generation Live’ อีกครั้ง พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ในการขนส่งสัตว์มีชีวิต ในฐานะผู้นำด้านการขนส่งสินค้าที่มีประสบการณ์ขนส่งสัตว์มากกว่า 550,000 ชีวิต รวมถึงม้ากว่า 10,000 ตัวในปี 2023 สายการบิน Qatar Airways Cargo พร้อมดูแลความเป็นอยู่ของสัตว์ในระหว่างการขนส่งให้ดีขึ้นกว่าเดิม
Mr. Mark Drusch ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสินค้า สายการบิน Qatar Airways Cargo แบ่งปันวิสัยทัศน์เกี่ยวกับบริการใหม่นี้ว่า “ที่ Qatar Airways Cargo เราตระหนักถึงความรับผิดชอบที่มีมากกว่าเพียงการขนส่งสัตว์มีชีวิต เรามุ่งมั่นดูแลความเป็นอยู่ของสัตว์ โดยเน้นย้ำถึงแนวทางปฏิบัติการและส่งเสริมความเป็นอยู่โดยรวมของสัตว์ที่ขนส่ง กระบวนการดูแลสัตว์ที่ดูแลองค์รวมทั้งหมดนี้ถือเป็นรากฐานด้านจริยธรรมของเราที่ขับเคลื่อนให้สายการบินของเรามุ่งมั่นสร้างสรรค์และเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม ด้วยการเปิดตัวศูนย์ปฏิบัติการ Animal Care แห่งใหม่และยกระดับบริการที่มีอยู่เดิม เราไม่เพียงสร้างมาตรฐานใหม่ในการขนส่งสัตว์มีชีวิต แต่เรายังมุ่งมั่นดำเนินการเพื่ออนาคต การปฏิบัติการในทุกขั้นตอนของเราสะท้อนให้เห็นถึงความเคารพที่เรามีต่อความเป็นอยู่ของสัตว์ สอดแทรกความมุ่งมั่นที่เรามีเพื่อสร้างความแตกต่างให้กับชีวิตของสัตว์เหล่านี้”
ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการแห่งใหม่มีพื้นที่ทั้งหมด 5,260 ตารางเมตร โดยมีระบบควบคุมอุณหภูมิอย่างเต็มรูปแบบเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของสัตว์ โดยคอกสำหรับสัตว์สามารถรองรับสุนัขได้ 140 ตัว และแมวได้ 40 ตัว คอกม้ามีจำนวน 34 คอก แบ่งพื้นที่ออกเป็น 4 ส่วน โดยมีระบบอากาศที่แยกกันเพื่อการถ่ายเทอากาศที่สะดวก และยังมีพื้นที่พิเศษที่ออกแบบเฉพาะสำหรับสัตว์ประเภทไก่ นก ปลา สัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์ชนิดพิเศษ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ข้างเครื่องและพื้นที่ในท่าอากาศยานที่มีจุดรับหลายจุดเพื่อปฏิบัติการที่มีประสิทธิภาพ พร้อมระบบ HVAC ซึ่งช่วยรักษาคุณภาพของอากาศให้เหมาะสม นอกจากนี้ Qatar Airways Cargo ยังใช้เทคโนโลยีที่สามารถรองรับตู้ ULD ได้สูงสุด 47 ตู้ โดยออกแบบตู้ ULD เฉพาะให้รองรับปฏิบัติการได้หลากหลาย
ในส่วนของบริการ Live Product ที่ปรับปรุงใหม่ สายการบินฯ ได้ใช้เครื่องมือ ‘Kennel Calculator Tool’ ซึ่งเป็นระบบทรัพยากรออนไลน์ที่ทันสมัยในการประเมินขนาดคอกให้เหมาะสมกับสัตว์ที่ขนส่ง เพื่อให้มั่นใจว่าสัตว์จะอยู่ได้อย่างสบายและสอดคล้องตามมาตรฐาน IATA LAR ทั้งยังมีการปรับปรุงบริการดูแลลูกค้าให้รวดเร็วและมีระบบตอบรับที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อม Control Tower เฉพาะที่ดูแลชิปเมนต์ที่มีความอ่อนไหวเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังมีการฝึกฝนตามแนวทาง IATA LAR ผ่านระบบดิจิทัล เพื่อให้บุคลากรทุกคนมีความแม่นยำด้านกฎระเบียบและเพิ่มพูนทักษะในการดูแลสัตว์ และท้ายที่สุดยังมีบริการ ‘Pet Card Service’ ซึ่งจะช่วยอัพเดตข้อมูลและรูปภาพของสัตว์ในระหว่างการขนส่ง ซึ่งจะช่วยยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าและช่วยมอบความสบายใจให้แก่ผู้ใช้บริการ
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Airfreight Logistics เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Airfreight Logistics หรือคลิกที่นี่
