การบินไทย (THAI) ร่วมกับฝ่ายการพาณิชย์สินค้าและไปรษณียภัณฑ์ เปิดบริการขนส่งสินค้าภายในห้องโดยสาร หรือ ‘Cargo-in-Cabin’ เพื่อบริหารจัดการพื้นที่ภายในห้องโดยสารของเที่ยวบินขนส่งสินค้าให้เกิดประโยชน์สูงสุด และช่วยเพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้าเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น โดยเหมาะสำหรับสินค้าที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ อาทิ สินค้าประเภทยาและเวชภัณฑ์ อาหาร และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
โดยเมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ปฏิบัติการขนส่งสินค้าแบบ Cargo-in-Cabin ร่วมกับการขนส่งสินค้าใต้ท้องเครื่องบินเป็นครั้งแรก ในเที่ยวบินขนส่งสินค้า เส้นทาง Guangzhou-Bangkok สำหรับสินค้าที่ขนส่งแบบ Cargo-in-Cabin ในเที่ยวบินดังกล่าว ได้แก่ Antigen Test Kit ซึ่งบรรจุในกล่องสินค้า น้ำหนักรวม 2,659 กิโลกรัม
เรือโท สุพจน์ เจริญสุข ประธานเจ้าหน้าที่สายปฏิบัติการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ปฏิบัติการ Cargo-in-Cabin อีกครั้งเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ในเส้นทาง Bangkok-Sydney บนเครื่องบิน Boeing 777-300ER ขนส่ง Antigen Test Kit ซึ่งบรรจุในกล่องสินค้า น้ำหนักรวม 2,930 กิโลกรัม ขนส่งถึงอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการขนส่งสินค้าใต้ท้องเครื่องบินอีกเช่นกัน โดยนับเป็นครั้งแรกที่ให้บริการ Cargo-in-Cabin ไปยังประเทศออสเตรเลีย
ทั้งนี้ การขนส่งสินค้าภายในห้องโดยสารนั้นเป็นการดำเนินการที่ได้รับการยกเว้นให้สามารถกระทำได้ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ทั่วโลก โดยบริษัท การบินไทยฯ ดำเนินการภายใต้มาตรฐาน ICAO และคู่มือปฏิบัติการที่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย โดยในช่วงแรกนี้สามารถดำเนินการได้จนถึงวันที่ 31 มีนาคม ปี 2022 และคาดว่าจะได้รับการต่ออายุให้ดำเนินการอีกภายหลังการได้รับอนุมัติ ผู้ที่สนใจต้องการที่จะขนส่งสินค้าสามารถติดต่อโดยตรงได้ที่ cargocharter@thaiairways.com
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Airfreight Logistics เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Airfreight Logistics หรือคลิกที่นี่
