time:matters ผู้เชี่ยวชาญด้านปฏิบัติการขนส่งด่วน เดินหน้าขยายกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนอย่างมุ่งมั่น เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์การสหประชาชาติ (UN) ในการจำกัดการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส ด้วยการลดการปล่อยคาร์บอนทั่วโลก
โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายหลักในการเลี่ยงการปล่อยมลภาวะที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้าให้มากที่สุด และลดปริมาณการปล่อยมลภาวะด้วยการใช้เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน (SAF) ให้ได้ 50 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี 2025 นอกจากนี้ยังมีการชดเชยการปล่อยคาร์บอนอย่างเต็มรูปแบบอีกด้วย
ปัจจุบัน time:matters ดำเนินการหลากหลายขั้นตอนเพื่อลดรอยเท้าคาร์บอนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยตลอดปี 2022 ได้ชดเชยการปล่อยคาร์บอนถึง 97 เปอร์เซ็นต์ เสริมด้วยการใช้เชื้อเพลิง SAF ทั้งหมด 3 เปอร์เซ็นต์จากปริมาณการใช้เชื้อเพลิงทั้งหมด ส่งผลให้การปฏิบัติการของ time:matters ในปีที่ผ่านมามีความเป็นกลางทางคาร์บอน 100 เปอร์เซ็นต์ และเริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมปีนี้ บริษัทฯ ยังได้ลงทุนในการใช้เชื้อเพลิง SAF ทั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์ สำหรับบริการ Sameday Air และบริการขนส่งด่วนด้วยบุคคล (On Board Courier) รวมถึงการขนส่ง Stem Cell ด้วย
ทั้งนี้ time:matters มีการเปิดเผยข้อมูลรอยเท้าคาร์บอนโดยละเอียดผ่านแพลตฟอร์มการจองบริการของบริษัทฯ รวมถึงในรายงานสำหรับผู้ใช้บริการ โดยทำการคำนวณปริมาณการปล่อยมลภาวะจากมาตรฐานสากลที่มีความเข้มงวดสูงสุด อาทิ GHG Protocol และ GLEC Framework
Mr. Alexander Kohnen ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท time:matters กล่าวว่า “โซลูชันโลจิสติกส์ที่ยั่งยืนนั้นไม่ใช่ทางเลือก ในฐานะบริษัทโลจิสติกส์ เรามีส่วนต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ขณะเดียวกัน ปฏิบัติการขนส่งสินค้าที่อ่อนไหวต่อเวลาก็อาจเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความเป็นความตายได้ในบางโอกาส นั่นจึงเป็นสาเหตุที่เราเลือกดำเนินกลยุทธ์โดยมองแบบองค์รวมโดยครอบคลุมทุกรูปแบบการขนส่ง รวมถึงปฏิบัติการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย ทั้งนี้เรามุ่งเน้นไปที่กิจกรรมหลักสามประเภท ได้แก่ การเลี่ยงกิจกรรมที่อาจมีการปล่อยมลภาวะเท่าที่ทำได้ ลดระดับการปล่อยมลภาวะในปัจจุบัน และชดเชยการปล่อยคาร์บอนในกรณีที่เลี่ยงไม่ได้ ขณะเดียวกัน เราก็เชิญชวนลูกค้าของเราให้ปฏิบัติการอย่างยั่งยืน ด้วยวิธีการนี้ เราต้องการทำหน้าที่ของเรา เพื่อให้มั่นใจว่าโลกของเราจะยังคงเป็นบ้านที่เราสามารถอาศัยอยู่ได้ทั้งกับตัวเราเองและคนรุ่นถัดไป”
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Airfreight Logistics เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Airfreight Logistics หรือคลิกที่นี่