ไขปัญหาการนำเข้าสินค้าสู่อเมริกา: AMS คืออะไร สำคัญอย่างไรต่อการขนส่งสินค้าไป USA?

0
2861
A CBP Office of Field Operation officer monitors the delivery of personal protective equipment (PPE) that arrived from China at O'Hare International Airport in Chicago, Ill., April 8, 2020 Photo by Alexis Hall, FEMA REGION V

หากพูดถึงการขนส่งสินค้า หลายคนอาจมองเห็นเพียงการขนย้ายสิ่งของจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งด้วยยานพาหนะ ซึ่งเป็นเพียงส่วนหนึ่งของกระบวนการโลจิสติกส์เท่านั้น แท้จริงแล้ว เบื้องหลังการเดินทางของสินค้าหนึ่งชิ้นจากประเทศต้นทางไปสู่ประเทศปลายทาง คือการดำเนินตามกฎเกณฑ์ มาตรการ และข้อบังคับที่ละเอียดอ่อนเกี่ยวกับการนำเข้า-ส่งออกอย่างเคร่งครัด เพื่อให้สินค้าเหล่านั้นสามารถขนส่งออกนอกประเทศ และนำเข้าสู่ประเทศจุดหมายได้อย่างราบรื่น

สำหรับประเทศที่มีมาตรการความปลอดภัยเข้มงวด กระบวนการดำเนินพิธีศุลกากรและดำเนินเอกสารเกี่ยวข้องกับความมั่นคงถือเป็นเรื่องที่ซับซ้อนอย่างยิ่ง หากเกิดความผิดพลาดในการดำเนินงานเพียงขั้นตอนเดียว ก็อาจสร้างปัญหาต่อเนื่องให้กับผู้ส่งสินค้าได้มากเกินคาดเดา ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายจากการขนส่งสินค้าที่ล่าช้า ค่าปรับจากหน่วยงานด้านความมั่นคง จนไปถึงการสูญเสียความเชื่อมั่นจากผู้ใช้บริการ

AFL มีโอกาสพูดคุยกับคุณวรภรณ์ ศรีกลัดไกร ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายการขนส่งสินค้าทางอากาศ บริษัท Kerry-Apex Thailand ผู้มีประสบการณ์ด้านการปฏิบัติการขนส่งสินค้าและการดำเนินเอกสารระหว่างประเทศกว่า 10 ปี มาแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินเอกสารเพื่อนำเข้าสินค้าสู่ประเทศที่มีกฎเกณฑ์เข้มงวดสูงสุดอย่างสหรัฐอเมริกา

ความซับซ้อนที่เกิดจากความจำเป็น

สำหรับประเทศที่มีการนำเข้าสินค้าปริมาณมาก การทราบถึงจำนวนสินค้าที่ไหลเข้าสู่ประเทศ ตลอดจนที่มาและแหล่งผลิตของสินค้านั้น ถือเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งต่อการจัดการนำเข้าสินค้าอย่างเป็นระบบ และค้นหาปัจจัยเสี่ยงของสินค้านั้นๆ เพื่อให้การนำเข้าสินค้าทุกชิ้นเป็นไปอย่างปลอดภัยและได้รับการปฏิบัติอย่างถูกต้อง

“เมื่อพูดถึงการนำเข้าสินค้าสู่สหรัฐฯ ผู้ส่งสินค้าทุกรายจะต้องยื่นข้อมูลตามกำหนดมาตรการด้านความปลอดภัยให้แก่หน่วยงานศุลกากรสหรัฐฯ หรือ US Customs and Border Protection (CBP) เพื่ออำนวยความสะดวกแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบข้อมูลได้อย่างครบถ้วน ถูกต้อง และเป็นระบบ ประกอบด้วย Automated Manifest System (AMS) สำหรับการขนส่งสินค้าทุกโหมดการขนส่ง และ Importer Security Filing (ISF 10+2) สำหรับการขนส่งสินค้าทางทะเล” คุณวรภรณ์กล่าว

Customs and Border Protection officers and import specialists assigned to the Area Port of Jacksonville, inspect shipments of possible intellectual property rights violations on Feb. 21. Photo by Ozzy Trevino, U.S. Customs and Border Protection

“กระบวนการส่งข้อมูลทั้ง AMS และ ISF จะต้องดำเนินการด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ Electronic Data Interface: EDI โดย Kerry-Apex มี Global System ที่สามารถส่งข้อมูล EDI โดยตรงจากประเทศต้นทางไปยังศุลกากรสหรัฐฯ ทั้งบนระบบ AMS & ISF”

AMS สำคัญอย่างไรต่อการส่งสินค้าไปยัง USA?

AMS หรือ Automated Manifest System คือเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งระบุรายละเอียดของสินค้าเพื่อยื่นแก่ศุลกากรสหรัฐฯ โดยเปิดรับการส่งข้อมูล 48 ชั่วโมง ก่อนที่อากาศยานจะลงจอดที่ท่าอากาศยานต้นทาง โดยตัวแทนผู้ส่งสินค้าต้องส่งข้อมูลภายใน 24 ชั่วโมงก่อนอากาศยานขนส่งสินค้าออกเดินทางจากท่าอากาศยานต้นทางมายังท่าอากาศยานปลายทางในสหรัฐฯ

A CBP Office of Field Operation officer monitors the delivery of personal protective equipment (PPE) that arrived from China at O’Hare International Airport in Chicago, Ill., April 8, 2020 Photo by Alexis Hall, FEMA REGION V

ที่มาของมาตรการด้านความปลอดภัยในการนำเข้าสินค้าสู่สหรัฐฯ เกิดขึ้นหลังจากเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน 2001 หรือ 9/11 ส่งผลให้หน่วยงานความมั่นคงของศุลกากรสหรัฐฯ ออกมาตรการให้ผู้ส่งสินค้าสำแดงสินค้าทั้งหมดที่นำเข้ามายังสหรัฐฯ รวมถึงสินค้าข้ามพรมแดนผ่านสหรัฐฯ ไปยังประเทศที่สาม ด้วยการยื่นข้อมูลบนระบบ AMS โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม ปี 2002 เป็นต้นมา

ข้อมูลที่ต้องระบุใน AMS

ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสินค้า

  • หมายเลข Air Way Bill
  • รหัส Standard Carrier Alpha Code (SCAC)
  • พิกัดอัตราศุลกากรของสหรัฐฯ (HTSUS Code)
  • ข้อมูลจำเพาะเกี่ยวกับสินค้าครอบคลุมถึง น้ำหนัก ขนาด จำนวน ประเภทสินค้า
  • รหัสและประเภทของบรรจุภัณฑ์ชั้นนอกและชั้นใน

ข้อมูลเกี่ยวกับการขนส่งสินค้า

  • ชื่อ ที่อยู่ ผู้นำเข้า-ส่งออกสินค้า และประเทศที่ออกเอกสาร
  • ชื่อ รหัสอากาศยาน ประเทศจดทะเบียนอากาศยาน
  • ชื่อท่าอากาศยานต้นทาง และท่าอากาศยานต่างประเทศที่สายการบินได้รับสิทธิ์เป็นผู้ถือครองสินค้า พร้อมเวลาเครื่องออก (ETD)
  • ชื่อท่าอากาศยานที่อากาศยานขนส่งสินค้าเข้าแวะในต่างประเทศก่อนมาถึงท่าอากาศยานสหรัฐฯ
  • ชื่อท่าอากาศยานที่ลงจอดในสหรัฐฯ พร้อมวันที่ลงจอด

การยื่น AMS ที่ถูกต้องภายในระยะเวลาที่กำหนดสำคัญอย่างไร?

“หากยื่น AMS ไม่ถูกต้อง ไม่สมบูรณ์ หรือเลยกำหนดเวลา จะเกิดค่าปรับอย่างน้อย 5,000 เหรียญสหรัฐ หรือหากเปลี่ยนแปลงข้อมูลประเภทสินค้า ชื่อผู้ส่งออก ชื่อผู้รับสินค้า ก็อาจมีค่าปรับเพิ่มอีก 5,000 เหรียญสหรัฐ นอกเหนือจากค่าใช้จ่ายจากค่าธรรมเนียมการแก้ไขข้อมูล ผลกระทบเหล่านี้จะทำให้การขนส่งสินค้าล่าช้า” คุณวรภรณ์กล่าว

U.S. Customs and Border Protection Office of Field Operations agricultural specialists inspect fruit shipments arriving at the Port of Philadelphia in Philadelphia, Pa., April 16, 2020. CBP photo by Glenn Fawcett

ด้วยเหตุนี้ ตัวแทนผู้ส่งสินค้าหลายรายจึงนำเสนอบริการดำเนินเอกสารและพิธีศุลกากรให้แก่ผู้ส่งสินค้าอยู่เสมอ เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถมั่นใจได้ว่าสินค้าจะเดินทางไปถึงจุดหมายอย่างราบรื่นและปลอดภัย ภายใต้การดูแลปฏิบัติการโดยผู้เชี่ยวชาญ

“Kerry-Apex Thailand มีประสบการณ์ขนส่งสินค้าสหรัฐฯ มากว่า 10 ปี และมีความเชี่ยวชาญด้านการดำเนินพิธีศุลกากรและดำเนินการตามกฎเกณฑ์การขนส่งต่างๆ เมื่อส่งมอบอำนาจการยื่นข้อมูลต่อศุลกากรสหรัฐฯ ให้เราดูแลรับผิดชอบ ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่าการนำเข้าสินค้าในท่าอากาศยานปลายทางจะเป็นไปอย่างราบรื่น” คุณวรภรณ์กล่าว


อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Airfreight Logistics เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Airfreight Logistics หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้Air Charter Service ขยายการลงทุนในสิงคโปร์ ตอบรับการเติบโตอย่างต่อเนื่องของภูมิภาค
บทความถัดไปNippon Express Europe จับมือ Lufthansa Cargo ร่วมใช้งานเชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน
Satida Tinarak
Satida Tinarak is a fresh writer who loves to read political novels or even constitutional law. Politics news is a subject that she never gets tired of. The Logistics Industry has now become one of her interests that is leading her towards another step towards furthering her knowledge.