Worldwide Flight Services (WFS) ผู้ให้บริการภาคพื้นชั้นนำในเครือกลุ่มบริษัท SATS Group ประสบความสำเร็จในการขยายการปฏิบัติการในท่าอากาศยาน Chicago O’Hare ซึ่งเป็นท่าอากาศยานที่มีปริมาณสินค้าผ่านท่ามากที่สุดเป็นอันดับสามในทวีปอเมริกาเหนือ โดย WFS จะสามารถรองรับปริมาณสินค้าได้เพิ่มขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ รวมเป็นปริมาณสินค้าทั้งหมดกว่า 310 ล้านกิโลกรัมต่อปี ผ่านการเปิดปฏิบัติการอาคารคลังสินค้าแห่งใหม่เพิ่มเติม
ในฐานะผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมการบิน การลงทุนครั้งล่าสุดนี้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ SATS Group และ WFS ในการมอบประสิทธิภาพการดำเนินการระดับโลกครอบคลุมทั่วทั้งเครือข่าย พร้อมเดินหน้าขยายขอบข่ายการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ WFS ได้บรรลุสัญญาเช่าระยะเวลา 15 ปี สำหรับอาคารคลังสินค้าแห่งใหม่ในพื้นที่ Northeast Cargo Area ของท่าอากาศยาน ส่งผลให้ WFS มีพื้นที่คลังสินค้าเพิ่มอีก 122,000 ตารางฟุต (11,334 ตร.ม.) พร้อมพื้นที่สำนักงาน 10,000 ตารางฟุต (929 ตร.ม.) และพื้นที่ฝั่งลานบินอีกราว 200,000 ตารางฟุต (18,580 ตร.ม.)
WFS มีประวัติการดำเนินงานที่ยาวนานเกือบ 40 ปี ในท่าอากาศยาน Chicago O-Hare และเป็นผู้นำในด้านบริการยกขนสินค้าและบริการภาคพื้นต่างๆ สำหรับสายการบินและผู้ให้บริการโลจิสติกส์ใน Chicago โดยครอบคลุมทั้งบริการด้านสินค้า บริการในฝั่งลานบิน ไปรษณียภัณฑ์ และบริการด้านผู้โดยสาร สำหรับสายการบินลูกค้า ซึ่งประกอบด้วย China Airlines, Eva Air, Kalitta Air, Flexport, Atlas Air รวมถึงบริษัท UPS, USPS และ Air France KLM Martinair ด้วย
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Airfreight Logistics เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Airfreight Logistics หรือคลิกที่นี่