ท่ามกลางแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่องของธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-commerce ในประเทศไทยในระยะหนึ่งถึงสองปีมานี้ นับเป็นโอกาสใหญ่ครั้งสำคัญสำหรับผู้ให้บริการขนส่งและโลจิสติกส์ที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและศักยภาพระดับสูง ที่จะเข้ามาเสริมความแกร่งให้กับธุรกิจยิ่งขึ้น จากการเป็นผู้ให้บริการอย่างครบวงจรที่สามารถสนองตอบความต้องการของลูกค้าในแบบ door to door ได้อย่างแท้จริง
ข้อมูลจาก Forbes ชี้ให้เห็นว่าธุรกิจ e-commerce ในประเทศไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว จากมูลค่า 413 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2012 คาดว่า จะทะลุ 700 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2016 นี้ ซึ่งถือว่าเติบโตสูงสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากแนวโน้มดังกล่าวนี้ Yusen Logistics ในฐานะผู้ให้บริการด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น ที่ได้เข้ามาสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งในประเทศไทยยาวนานถึง 46 ปี พร้อมแสดงความเป็นผู้นำด้านบริการขนส่งและโลจิสติกส์ไทยอีกครั้งด้วยการรุกสู่ตลาดธุรกิจ e-commerce
Tapping into an Innovative New Market
จากปัจจัยด้านเทคโนโลยีสื่อสาร ที่รวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น กอปรกับการเติบโตของสินค้าเทคโนโลยีอย่างสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต รวมถึงทางเลือกทางธุรกรรมที่หลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นผ่านบัตรเครดิต ระบบ paypal การโอนเงินทางธนาคารอินเตอร์เน็ต หรือแม้แต่การเก็บเงินปลายทาง ทำให้ยอดการสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด คุณชาตรี บริรักษ์พัฒนกุล ผู้จัดการใหญ่ กลุ่มการขนส่งภายในประเทศ บริษัท Yusen Logistics (Thailand) เปิดเผยกับนิตยสาร AFL ว่า “เนื่องจาก Yusen เล็งเห็นทิศทางการเติบโตที่ทั้งเร็วและไกลของธุรกิจ e-commerce ในประเทศไทย เราจึงตัดสินใจก้าวเข้ามาจับตลาดธุรกิจนี้ตั้งแต่ต้นปีมานี้ ซึ่งปัจจุบันเราให้บริการสนับสนุนด้านการกระจายสินค้าทั่วประเทศแก่ผู้ประกอบธุรกิจ e-commerce รายใหญ่อันดับหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งบริษัทลูกค้ารายนี้มีการเติบโตเป็นสองเท่าในปีที่ผ่านมา และมีแนวโน้มเติบโตมากยิ่งขึ้นภายใน ปีนี้ ส่งผลให้ปริมาณการขนส่งของเราในส่วนนี้ขยายขึ้นตาม นับเป็นการช่วยขยายฐานลูกค้าของ Yusen ได้กว้างขวางและรวดเร็วยิ่งขึ้นตามมา”
จากเดิมที่ Yusen ให้บริการด้านการกระจายสินค้าแก่กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์มาอย่างยาวนานและเป็นที่ยอมรับกันในวงการ การเข้ามาสนับสนุนธุรกิจ e-commerce จึงเป็นอีกก้าวหนึ่งที่ทั้งสดและใหม่สำหรับบริษัทฯ เอง และสำหรับตลาดประเทศไทยที่ยังมีผู้เล่นในธุรกิจนี้ไม่มากนัก “ขณะที่เมื่อก่อนเราดำเนินการในแบบ B-to-B และโฟกัสที่ลูกค้าประเภทยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลัก ปลายทางการขนส่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นสถานที่เดิมๆ อย่างโรงงาน บริษัทตัวแทน จำหน่าย หรือร้านค้าต่างๆ แต่การก้าวเข้าสู่ธุรกิจ e-commerce ซึ่งเป็นลักษณะของการดำเนินงานในแบบ B-to-C หมายความว่าสินค้าที่นำส่งจะมีความหลากหลายมากขึ้นทั้งในส่วนของขนาดและน้ำหนัก ครอบคลุมตั้งแต่สินค้าอุปโภคบริโภค อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น ขณะเดียวกัน จุดหมายปลายทางในการขนส่งก็จะเปลี่ยนไปทุกวันและไม่ซ้ำกัน รวมถึงการเข้าถึงบางพื้นที่อาจจะมีข้อกำจัด เช่น อยู่ในซอยแคบ นำมาซึ่งความท้าทายมากขึ้นในด้านการบริหารจัดการ แต่ก็นับเป็นการดำเนินงานในแบบ door to door อย่างแท้จริง ที่เราจะต้องกระจายสินค้าจากคลังของลูกค้าไปถึงมือของลูกค้าของลูกค้าเราเอง” คุณชาตรี กล่าว
Benefiting from Experience
แม้จะมีความต่างจากภาคธุรกิจอื่นๆ ที่เคยดำเนินการมา แต่ด้วยจุดแข็งของ Yusen ไม่ว่าจะในด้านเครือข่ายที่ครอบคลุม ระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัย และบุคลากรที่มีประสิทธิภาพ จึงทำให้การบริหารจัดการขนส่งสินค้าสำหรับลูกค้าในธุรกิจ e-commerce ของบริษัทฯ จึงไม่ใช่เรื่องยาก เกินความสามารถ
คุณธัชว์พิศณุ เศรษฐาอนันต์ ผู้จัดการอาวุโส กลุ่มการกระจายสินค้าทั่วประเทศ บริษัท Yusen Logistics (Thailand) กล่าวเสริมว่า “เนื่องจากเรามีความแข็งแกร่งในด้านเครือข่ายที่ครอบคลุมทั้งประเทศไทย ด้วยศูนย์รับและกระจายสินค้าที่ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ที่ลำปางและกำแพงเพชร ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ขอนแก่น นครราชสีมา อุบลราชธานี และอุดรธานี และภาคใต้ที่ประจวบคีรีขันธ์ สุราษฎร์ฐานี และหาดใหญ่ จึงสามารถตอบโจทย์ลูกค้าในแง่ของความรวดเร็วในการขนส่งสินค้า ขณะเดียวกันเรายังมีฝูงรถขนส่งที่หลากหลาย ทั้งรถสี่ล้อ หกล้อ และสิบล้อ ดังนั้นจึงสามารถดำเนินการสินค้าได้หลากหลายประเภท โดยเฉพาะสินค้าชิ้นใหญ่ เนื่องจากเรามีประสบการณ์ยาวนานในการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่มาก่อน นับเป็นข้อได้เปรียบที่โดดเด่นของเราเหนือคู่แข่งรายอื่นในตลาด”
ขณะเดียวกัน เพื่อให้การปฏิบัติการขนส่งในแต่ละครั้งเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ระบบเทคโนโลยีที่ทันสมัยจึงถูกนำมาใช้ในการวางแผนและบริหารจัดการการขนส่ง “เนื่องจากสินค้าที่จะต้อง ขนส่งในแต่ละวันมีปริมาณที่คาดการณ์ได้ยาก ขึ้นอยู่กับรายการสั่งซื้อในแต่ละวัน เราจึงต้องวางแผนด้วยว่าทำอย่างไรจึงจะคุ้มทุนและงานสำเร็จมากขึ้น การวางแผนจึงเป็นในระดับวันต่อวัน” คุณสิร์ภัสนัน หิรัญพุฒิภร ผู้ช่วยผู้จัดการ กลุ่มการกระจายสินค้าทั่วประเทศ บริษัท Yusen Logistics (Thailand) อธิบาย
“เราได้จัดตั้งศูนย์วางแผนงานสำหรับธุรกิจ e-commerce และทีมงานฝ่ายไอทีของเราเองยังได้พัฒนาระบบใหม่ขึ้นสำหรับตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจ e-commerce โดยเฉพาะ ซึ่งระบบดังกล่าวยังเชื่อมต่อกับระบบต่างๆ ของเรา ตั้งแต่ระบบการชั่งน้ำหนักเพื่อใช้ในการติดตามสถานะสินค้า ระบบบริหารจัดการการ ขนส่ง (Transportation Management System: TMS) ระบบออกใบสั่งงานที่สามารถส่งข้อมูลไปยังแท็บเล็ตและพนักงานขับรถเพื่อยืนยันการส่งสินค้า และระบบติดตาม GPS ที่ทันสมัย ไปจนถึงระบบที่ใช้ในการเก็บข้อมูล เช่น ภาพถ่ายใบเสร็จ ระบบที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารระหว่างพนักงานขับรถและเจ้าหน้าที่วางแผนงานขนส่งที่ศูนย์ฯ และระบบติดตามสถานะการชำระเงิน ไม่เพียงเท่านั้น ในส่วนของลูกค้า เรายังมีระบบติดตามและตรวจสอบสินค้า (tracking system) ในแบบเรียลไทม์ กล่าวได้ว่าไม่เฉพาะแต่ลูกค้า e-commerce ของเราเท่านั้นที่ทันสมัย แต่เราเองก็ได้ลงทุนในด้านเทคโนโลยีเพื่อการอำนวยความสะดวกยิ่งขึ้นให้ทั้งกับพนักงานขับรถ ลูกค้าของเรา และลูกค้าของลูกค้าเราด้วย” คุณชาตรี เสริมถึงการลงทุนในเทคโนโลยีต่างๆ ของ Yusen ว่า “เรามองว่าเทคโนโลยีได้สร้างความแตกต่างและนำไปสู่ก้าวอื่นๆ ที่คุ้มค่า ขณะเดียวกันยังช่วยในการพัฒนาคุณภาพการทำงานของเราให้ดีขึ้น”
เทคโนโลยีนอกจากจะมีส่วนช่วยในการขนส่งสินค้าตรงเวลาแล้ว ยังให้ข้อมูลที่รวดเร็ว ถูกต้อง และชัดเจน ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกค้าคาดหวังจากเราเช่นกัน
Quality Service by Qualified Staff
ถึงกระนั้นก็ตาม ไม่ว่าเทคโนโลยีที่นำมาใช้จะทันสมัยมากเพียงใด ท้ายที่สุดแล้วการปฏิบัติการที่ราบรื่นและมีประสิทธิภาพยังขึ้นอยู่กับบุคลากรเป็นสำคัญ คุณธัชว์พิศณุ อธิบายถึงจุดเด่นด้านทรัพยากรบุคคลของ Yusen ว่า “ไม่ว่าจะพนักงาน ขับรถหรือพนักงานที่ประจำอยู่ที่ฮับระดับภูมิภาค ล้วนเป็นพนักงานของ Yusen เอง การบริหารจัดการต่างๆ จึงอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของเราเองทั้งหมด ดังนั้นจึงสามารถมั่นใจได้ถึงคุณภาพในการให้บริการ ทั้งนี้ ก่อนที่เราจะเริ่มบริการใหม่ๆ อย่าง e-commerce นี้ เราได้มีการอบรมพนักงานก่อนเสมอถึงสิ่งที่พวกเขาควรจะรู้ ข้อควรระวังในการทำงาน สิ่งที่ต้องเผชิญ และการแก้ไขปัญหาต่างๆ ซึ่งบางครั้งไม่ใช่แค่การอบรมเพียงครั้งเดียว แต่เราจะเสริมความรู้ให้กับพนักงานจนกว่าจะแน่ใจได้ว่าพวกเขามีความพร้อมที่จะให้บริการได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพจริง”
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจ e-commerce ที่มีบริการเก็บเงินปลายทาง (Cash on Delivery หรือ COD) เข้ามาเกี่ยวข้อง ทีมงานที่มีความซื่อสัตย์มี ความสำคัญอย่างยิ่ง “พนักงานขับรถและทีมงานทุกคนที่เดินทางไปส่งสินค้าถึงมือลูกค้าปลายทางคือพนักงานของ Yusen ทั้งหมด ในมุมมองของลูกค้า พวกเขาคือภาพลักษณ์ของ Yusen ขณะที่ในมุมมองของลูกค้าปลายทาง พวกเขาคือภาพลักษณ์ของลูกค้า e-commerce ของเรา ดังนั้น เราต้องมั่นใจได้ว่าพวกเขามีความซื่อสัตย์ตามหลักปรัชญาองค์กรที่ Yusen เน้นให้ความสำคัญเสมอ และมีบุคลิภาพ มารยาท และความอ่อนน้อมถ่อมตนในแบบที่ลูกค้าของเราต้องการให้ปฏิบัติต่อลูกค้าของพวกเขา” คุณธัชว์พิศณุ กล่าว
คุณชาตรี อธิบายเพิ่มเติมถึงบริการ COD ใน ธุรกิจนี้ว่า “ในตลาด e-commerce บริการ COD นับเป็นจุดที่แสดงถึงความพร้อมของผู้ให้บริการขนส่งและโลจิสติกส์ในการเข้ารุกตลาดนี้ และยังเป็นจุดเสริมที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของของธุรกิจ e-commerce เนื่องจากหลายๆ ครั้ง ลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าออนไลน์ ยังรู้สึกอยากเห็นสินค้าก่อน แล้วจึงค่อยจ่ายเงิน และบางรายอาจปฏิเสธการรับสินค้าด้วยหลายๆ เหตุผล ทั้งหมดนี้จึงเป็นเรื่องของการบริหารจัดการและการควบคุม ทั้งในส่วนของทีมงานที่ซื่อสัตย์ และการหมุนเวียนของเงินที่จะต้องชัดเจน ถูกต้อง รวดเร็ว และ รัดกุม ดังนั้น ผู้ที่พร้อมจริงๆ เท่านั้นที่จะสามารถก้าวเข้ามาเป็นผู้ให้บริการในตลาดนี้ได้”
ทั้งนี้ คุณสิร์ภัสนัน อธิบายเสริมว่า Yusen มี ทีมงานและกระบวนการควบคุมการปฏิบัติการ
ในทุกภาคส่วนที่ละเอียดและกระชับ จากเดิมที่พนักงานขับรถเพียงแค่นำส่งสินค้าและรับใบเสร็จจากลูกค้ามา ขณะนี้ยังรวมถึงการควบคุมดูแลเงินจากลูกค้าด้วย เนื่องจากทั้งหมดนี้ล้วนเกี่ยวพันกับคุณภาพการทำงานและความซื่อสัตย์ขององค์กร
Moving to the Next Level
ปัจจุบัน นับเป็นเวลาประมาณครึ่งปีแล้วที่ Yusen Logistics รุกสู่ธุรกิจ e-commerce ซึ่งคุณชาตรีกล่าวถึงผลตอบรับว่า ลูกค้าค่อนข้างพึงพอใจในบริการสนับสนุนด้านการขนส่งจากบริษัทฯ รวมทั้งยังมีการหารือกันบ้างแล้วในแง่ของการขยายศักยภาพขีดความสามารถในการรองรับปริมาณงานที่เพิ่มมากขึ้นของลูกค้า ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังกำลังมองหาโอกาสในการขยายไปยังลูกค้าธุรกิจ e-commerce รายอื่นที่แม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่า แต่ก็มีศักยภาพในการเติบโตสูงเช่นเดียวกัน
สัดส่วนการดำเนินงานด้าน e-commerce อาจจะยังไม่สูงนัก ณ ตอนนี้ แต่ที่เห็นได้ ชัดคือโอกาสในการเติบโตที่เรียกว่าสูงมาก
“เมื่อเทียบกับกลุ่มธุรกิจด้านอื่นๆ ที่เราให้บริการมานาน สัดส่วนการดำเนินงานด้าน e-commerce อาจจะยังไม่สูงนัก ณ ตอนนี้ แต่ที่เห็นได้ ชัดคือโอกาสในการเติบโตที่เรียกว่าสูงมาก และเราคาดว่าจะมีปริมาณการดำเนินงานมากขึ้นอย่าง น้อยหนึ่งเท่าตัวภายในสิ้นปีนี้” คุณชาตรี กล่าวและทิ้งท้ายถึงวิสัยทัศน์ในการดำเนินงานของ Yusen ว่า “ที่ Yusen เรามีความพยายามที่จะผลักดันการเติบโตของบริษัทอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจ ณ ขณะนั้นจะเป็นอย่างไร เรามีการสร้าง ความหลากหลายให้กับการลงทุน และให้บริการลูกค้าในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อให้เกิดความสมดุลซึ่งกันและกัน ซึ่งจะช่วยให้บริษัทฯ ก้าวต่อไปได้อย่างเข้มแข็ง ขณะเดียวกันเราก็ไม่หยุดยั้งในการมองหาโอกาสธุรกิจใหม่ๆ และใช้ความสามารถและประสบการณ์ที่สั่งสมมา เพื่อเข้าไปดำเนินการอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ”
เช่นเดียวกับภาคธุรกิจ e-commerce นี้ ที่ Yusen มีข้อได้เปรียบจากการมีเครือข่ายที่ครบวงจร นอกจากในด้านการกระจายสินค้าทางบกแล้ว รากฐานด้านบริการขนส่งทางน้ำและทางอากาศก็แข็งแกร่ง รวมไปถึงมีเทคโนโลยีการวางแผนบริหารจัดการที่ล้ำสมัยและเปี่ยมประสิทธิภาพ และมีทีมงานระดับคุณภาพที่พร้อมให้บริการแก่ลูกค้าทุกรายเสมอ จึงทำให้สามารถรุกเจาะภาคธุรกิจใหม่ที่มีการเติบโตสูงนี้ได้อย่างรวดเร็วก่อนใคร และสักวันหนึ่งเมื่อภูมิภาคนี้สามารถรวมตัวเป็นกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนได้อย่างสมบูรณ์ โดยปราศจากข้อจำกัดในการขนส่งสินค้าข้ามแดนอีกต่อไป โอกาสเป็นไปได้สูงที่ฐานธุรกิจ e-commerce จะขยายกว้างขึ้นนอกเหนือจากประเทศไทย เมื่อถึงวันนั้น เชื่อว่า Yusen จะยังคงมีความพร้อมก่อนใครเช่นกันในการขยายฐานลูกค้าและการบริการเข้าสู่ตลาดเดี่ยวที่มีขนาดใหญ่นี้
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Airfreight Logistics เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Airfreight Logistics หรือคลิกที่นี่