Jettainer ผู้ให้บริการบริหารจัดการกองตู้ ULD ชั้นนำ เปิดเผยแผนการขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกภายในปี 2023 ภายในงานประชุมสัมมนา IATA World Cargo Symposium 2022 ซึ่งจัดขึ้นใน London โดยกำหนดให้สิงคโปร์และฮ่องกงเป็นประตูการค้าหลัก
ทั้งนี้ เป้าหมายของ Jettainer คือการจัดตั้งทีมงานประจำภูมิภาคในเอเชีย ซึ่งจะช่วยกระชับความสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านความเชี่ยวชาญในการดำเนินงานในบริบทข้ามวัฒนธรรม และช่วยให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการเฉพาะของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของตลาดในช่วงสองปีครึ่งที่ผ่านมาได้ทำให้กระบวนการทำงานต่างๆ ของอุตสาหกรรมการบินทั่วโลกต้องเผชิญกับข้อจำกัด สายการบินต่างประสบปัญหามากมายจากการขาดแคลนตู้ ULD นอกจากนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวยังได้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือในการจัดหาตู้เก็บสินค้ามากกว่าที่เคยเป็นมา ขณะที่ความกังวลด้านต้นทุนและประเด็นเรื่องความยั่งยืนยังคงเป็นประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง
โดยปัจจัยดังกล่าวทั้งหมดมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในตลาดเอเชียแปซิฟิกซึ่งเป็นตลาดที่สายการบินต่างๆ กำลังเติบโต โดยสายการบินที่เปิดดำเนินกิจการอยู่ก็กำลังเดินหน้าขยายธุรกิจ พร้อมนำฝูงเครื่องบินตัวกว้างมาร่วมปฏิบัติการหรือเริ่มต้นให้บริการขนส่งสินค้า ทั้งยังมีสายการบินรายใหม่ๆ ที่กำลังอยู่ในระหว่างก่อตั้ง และจากธรรมเนียมปฏิบัติแต่เดิมที่สายการบินจะบริหารจัดการกองตู้ ULD ของตนเอง บริษัทฯ จึงมองว่าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจึงเป็นพื้นที่แห่งศักยภาพด้านการเติบโตสำหรับ Jettainer ที่มีโซลูชันด้านการบริหารจัดการกองตู้ ULD ที่หลากหลาย และสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างตรงจุด
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Airfreight Logistics เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Airfreight Logistics หรือคลิกที่นี่