DHL Express เปิดบริการส่งด่วนกระบองเพชรและไม้ใบจากไทยสู่สหรัฐอเมริกา

0
338
DHL Express Plants

DHL Express ผู้ให้บริการขนส่งด่วนระหว่างประเทศชั้นนำ เปิดให้บริการขนส่งด่วนสำหรับต้นไม้ที่เน่าเสียได้ยาก เช่น กระบองเพชร (แคคตัส) และไม้ใบจากประเทศไทยไปยังสหรัฐอเมริกา โดยเป็นการเพิ่มประเทศในการให้บริการ จากปัจจุบันที่ให้บริการส่งแคคตัสและไม้ใบบางประเภทไปยังสิงคโปร์ อินโดนีเซีย เวียดนาม และกัมพูชา ซึ่งการเปิดให้บริการนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถมีโอกาสในการทำธุรกิจมากขึ้น จากความต้องการต้นไม้ของผู้บริโภคที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในตลาดสหรัฐฯ

โดยผู้ประกอบการส่งออกต้นไม้ประเภทที่เน่าเสียได้ยาก (non-perishable plant) เช่น กระบองเพชรและไม้ใบในประเทศไทยจะสามารถเข้าถึงลูกค้าในสหรัฐอเมริกาผ่านการจัดส่งด่วนของ DHL Express ภายในระยะเวลาสามถึงห้าวัน โดยผู้ส่งสินค้าสามารถติดตามสถานะการจัดส่งในกระบวนการซัพพลายเชนตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางผู้รับ ผ่านเครือข่ายการขนส่งด่วนทั้งทางอากาศและภาคพื้นดิน และบริการด้านโลจิสติกส์ที่ครอบคลุมของทางบริษัทฯ ทั้งนี้ ระยะเวลาในการขนส่งขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์และครบถ้วนของเอกสารสำคัญที่ผู้ส่งต้องเตรียม รวมถึงกระบวนการตรวจสอบและพิธีการศุลกากรในประเทศที่เป็นทางผ่านและประเทศปลายทาง

คุณเฮอร์เบิต วงษ์ภูษณชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท DHL Express ประเทศไทย และหัวหน้าภาคพื้นอินโดจีน กล่าวว่า “เรายินดีที่จะประกาศให้ทราบเกี่ยวกับการขยายความสามารถในการให้บริการขนส่งด่วนข้ามประเทศเพื่อการค้าระหว่างประเทศสำหรับต้นไม้ประเภทที่เน่าเสียได้ยาก เช่น กระบองเพชรและไม้ใบ จากประเทศไทยไปยังสหรัฐฯ ความก้าวหน้าครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำเทรนด์ตลาด และตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เรามองเห็นการเติบโตของตลาดต้นไม้ทั่วโลก และภูมิใจที่ได้เป็นผู้นำในการให้บริการส่งออกระดับมืออาชีพ และใช้ความเชี่ยวชาญของเราในการสนับสนุนผู้ค้าและ SMEs ในประเทศเพื่อให้เข้าถึงตลาดสหรัฐฯ การขยายการให้บริการในครั้งนี้นับเป็นการตอกย้ำความพยายามของเราในการส่งมอบบริการที่เป็นเลิศ รวดเร็ว และไว้ใจได้ และเรามุ่งมั่นที่จะช่วยให้ธุรกิจต่างๆ เติบโตในอุตสาหกรรมต้นไม้ให้มากขึ้น”

ทั้งนี้ ต้นไม้ที่เน่าเสียได้ยาก หรือ Non-perishable plant คือคำจำกัดความสำหรับต้นไม้ที่สามารถอยู่รอดได้โดยไม่ต้องอาศัยดินหรือน้ำเป็นเวลา 3-5 วัน ต้นไม้ประเภทนี้ครอบคลุมไม้กระถางและไม้ใบที่ไม่จัดอยู่ในสายพันธุ์ต้องห้าม ไม่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เช่น การควบคุมอุณหภูมิ ตัวอย่างพันธุ์ไม้ที่จัดว่าเน่าเสียได้ยาก เช่น ชวนชม มอนสเตอร่า พลูด่าง ฟิโลเดนดรอน และกระบองเพชร

ตลาดต้นไม้ทั่วโลกมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมูลค่าการนำเข้าต้นไม้และพืชอื่นๆ ทั่วโลกมีมูลค่าราว 23,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯในปี 2022 โดยสหรัฐฯ จัดเป็นตลาดระดับแนวหน้าซึ่งมีมูลค่าการนำเข้าสูงถึง 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และครองตำแหน่งประเทศที่นำเข้าต้นไม้สูงที่สุดในปี 2022 โดยประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้จัดหาสินค้ารายสำคัญที่จัดส่งต้นไม้ไปยังสหรัฐฯ และเป็นประเทศที่ส่งออกไม้ประดับและพันธุ์ไม้ตกแต่งแถวหน้าของอาเซียนโดยครองอันดับหนึ่งของภูมิภาคและอันดับที่ 16 ของโลกในปี 2022 มีมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 124.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดสำคัญในการส่งออก

ทั้งนี้ การส่งออกต้นไม้ที่เน่าเสียได้ยากจากไทยไปยังสหรัฐฯ จำเป็นต้องใช้ใบรับรองปลอดศัตรูพืช (Phytosanitary Certification) เพื่อรับรองว่าต้นไม้ที่ส่งออกปลอดศัตรูพืช และเป็นไปตามเงื่อนไขของประเทศปลายทาง ซึ่งใบรับรองปลอดศัตรูพืชดังกล่าวจะช่วยยืนยันว่าผู้ส่งออกปฏิบัติตามกฎระเบียบที่กำหนดโดยกระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ (USDA) สำหรับการนำเข้าพืช และในด้านผู้รับปลายทาง บริษัทฯ แนะนำให้ทำการติดต่อกระทรวงฯ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนสินค้าจะถูกจัดส่งเพื่อเตรียมเอกสารการนำเข้าสินค้า เพื่อให้สามารถจัดส่งถึงมือผู้รับได้อย่างรวดเร็ว ส่วนใบอนุญาตส่งออกไซเตส (CITES: อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์) ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของประเทศต้นทางว่าการขนส่งดังกล่าวมีต้นไม้สายพันธุ์ที่ได้รับการคุ้มครองโดย CITES หรือไม่


อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Airfreight Logistics เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Airfreight Logistics หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้Qatar Airways Cargo เปิดตัวปลายทางช่วงฤดูร้อน สู่ Tokyo, Nice, Manama และ Sarajevo
บทความถัดไปKuehne+Nagel ซื้อกิจการ Morgan Cargo ขยายฐานปฏิบัติการในแอฟริกาใต้