A.P. Moller – Maersk (Maersk) และ Cozero ร่วมมือกันพัฒนาเครื่องมือการวิเคราะห์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบการปล่อยก๊าซเรือนกระจกผ่านกระบวนการขนส่งพัสดุระหว่างประเทศในยุโรป โดยนับตั้งแต่ที่ Maersk ขยายธุรกิจเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมโลจิสติกส์สำหรับอีคอมเมิร์ซในยุโรปผ่านการเข้าซื้อกิจการของ B2C Europe บริษัทฯ ก็ดำเนินการส่งมอบพัสดุระหว่างประเทศจำนวนหลายล้านชิ้นให้กับผู้จำหน่ายสินค้าออนไลน์ในยุโรป และเนื่องจากความซับซ้อนของกระบวนการซัพพลายเชน การขนส่งพัสดุระหว่างประเทศจึงมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงกว่าการจัดส่งพัสดุในประเทศอย่างมาก
Mr. Christian Grosse ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ E-Delivery ของ Maersk กล่าวว่า “ลูกค้าของเราในอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศมักพบช่องว่างขนาดใหญ่ในการตรวจสอบการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เนื่องจากมีหลายฝ่ายเข้ามาเกี่ยวข้องในระหว่างขั้นตอนการส่งมอบสินค้าช่วงต้น ช่วงกลาง และช่วงสุดท้าย ซึ่งทำให้การเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นเรื่องที่มีความท้าทายสำหรับพวกเขา”
“อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีของ Cozero ได้เข้ามาช่วยให้เราสามารถมอบข้อมูลโดยละเอียดแก่ลูกค้าเกี่ยวกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในการดำเนินงานของพวกเขาในทุกขั้นตอนและทุกองค์ประกอบในเส้นการเดินทางของพัสดุระหว่างประเทศของพวกเขา ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้เป็นอย่างมาก” Mr. Grosse กล่าวเสริม
ลูกค้าบางส่วนของ Maersk E-Delivery ในยุโรปสามารถลงทะเบียนเข้าใช้เครื่องมือใหม่นี้นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2023 เพื่อติดตามและวิเคราะห์การปล่อยมลภาวะในการขนส่งพัสดุระหว่างประเทศ ข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับพัสดุทุกชิ้น ซึ่งประกอบด้วยน้ำหนัก เส้นทาง และพาหนะที่ใช้ในการขนส่งในทุกช่วงของการดำเนินการส่งมอบสินค้าข้ามพรมแดนจะได้รับการประมวลผลตามมาตรฐาน Greenhouse Gas Protocol ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และจะมีการนำเสนอข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่แม่นยำและข้อมูลเชิงลึกที่มีประโยชน์ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย ซึ่งจะช่วยให้สามารถระบุปัจจัยหลักของการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และดำเนินการแก้ไขที่จำเป็นเพื่อลดการปล่อยก๊าซดังกล่าวได้ง่ายขึ้น
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Airfreight Logistics เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Airfreight Logistics หรือคลิกที่นี่