Swiss WorldCargo ร่วมมือกับ Climeworks มอบทางเลือกให้ลูกค้ากำจัดคาร์บอนอย่างมีคุณภาพ

0
138
Swiss WorldCargo South Korea

Swiss WorldCargo เป็นสายการบินขนส่งสินค้ารายแรกที่ให้ความสำคัญกับโซลูชันเทคโนโลยีคุณภาพสูงที่ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนในอุตสาหกรรมการบิน สายการบินฯ ได้เปิดตัว Aviation Tech Pioneer ทางเลือกพรีเมียมที่ผสานการกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยเทคโนโลยีทันสมัยด้วยการดักจับคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ (direct air capture: DAC) ในสัดส่วน 20 เปอร์เซ็นต์ และเลือกใช้เชื้อเพลิงทางอากาศแบบยั่งยืน (SAF) อีก 80 เปอร์เซ็นต์ ด้วยทางเลือกใหม่นี้ ผสานกับ ‘Green Choice’ ซึ่งเป็นทางเลือกของบริการที่มีอยู่เดิม Swiss WorldCargo มุ่งมั่นร่วมมือกับ Climeworks บริษัทสัญชาติสวิสเซอร์แลนด์ และมุ่งมั่นสนับสนุนเทคโนโลยี DAC

ความยั่งยืนถือเป็นแนวคิดหลักทางกลยุทธ์ของ SWISS และ Swiss WorldCargo และการเป็นพันธมิตรในส่วนนี้ยังมีบทบาทสำคัญในการพาบริษัทฯ เข้าใกล้เป้าหมายการปล่อยคาร์บอนเท่ากับศูนย์ให้สำเร็จภายในปี 2050 โดย Swiss WorldCargo ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการยกระดับเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่สำคัญเพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนมากขึ้นให้อุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าทางอากาศ และดำเนินการเพื่อให้มั่นใจว่าการเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งในครั้งนี้จะช่วยขับเคลื่อนความยั่งยืนในอนาคต

แนวคิดของ Swiss WorldCargo เริ่มต้นจากข้อตกลงในการกำจัดสารตกค้างจากคาร์บอนไดออกไซด์ผ่านการลงนามระหว่าง SWISS และ Lufthansa Group เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2024 ปัจจุบัน Swiss WorldCargo ได้เปิดตัวโครงการนำร่อง ซึ่งผสานการกำจัดคาร์บอนจากตัวเลือกการให้บริการลูกค้าร่วมกับ Climeworks ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการกำจัดคาร์บอนอย่างมีคุณภาพให้แก่งธุรกิจและระดับบุคคล โดย Climeworks มอบโซลูชั่นในการจัดการคาร์บอนที่ไม่สามารถแก้ไขได้ให้ได้อย่างถาวร ด้วยการใช้เทคโนโลยี DAC ดักจับคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ จากนั้นจึงมีการกักเก็บใต้ดินอย่างถาวร

ด้วยการใช้เทคโนโลยี DAC ทำให้ Climeworks เป็นผู้นำระดับโลกในภาคส่วนกำจัดคาร์บอน โซลูชัน DAC เป็นแนวทางที่สามารถกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์จากชั้นบรรยากาศได้โดยตรงและกักเก็บลงใต้ดินได้ถาวรที่มีความสำคัญอย่างมาก กลุ่มธุรกิจสายการบินสามารถใช้ประโยชน์จากทั้ง DAC และเทคโนโลยีการปล่อยคาร์บอนเชิงลบ (negative-carbon) เพื่อบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยคาร์บอน โดย Climeworks ได้ปฏิบัติการในโรงงานดักจับและกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกสองแห่ง ซึ่งตั้งอยู่ในไอร์แลนด์ และมีแผนการเติบโตเพิ่มเติมในอนาคต


อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Airfreight Logistics เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Airfreight Logistics หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้WFS จับมือ Singapore Airlines เป็นพันธมิตร ด้วยบริการใน London Gatwick พร้อมขยายระยะสัญญาในฝรั่งเศส เบลเยียม และสหราชอาณาจักร
บทความถัดไปMaersk Air Cargo รับมอบเครื่องบินขนส่งสินค้า Boeing 777F ลำแรก