9 ข้อ ที่ต้องคำนึงถึงเมื่อเตรียมขนส่งสินค้า Oversized

0
8000

สิ่งที่ทำให้ผู้ให้บริการเครื่องบินขนส่งสินค้ามีบทบาทในตลาดการขนส่งสินค้าทางอากาศคือการเติมเต็มความต้องการของตลาดเฉพาะกลุ่มได้อย่างตรงจุด ขณะที่พื้นที่โหลดสัมภาระใต้ท้องเครื่องบินโดยสารมีไว้สำหรับการใช้งานขนส่งสินค้าภายใต้ข้อจำกัดต่างๆ แต่เครื่องบินขนส่งสินค้าโดยเฉพาะนั้นสามารถบรรทุกสินค้าที่มีลักษณะเฉพาะหรือมีขนาดใหญ่มากๆ ได้รวมไปถึงสินค้าที่บรรจุไว้บนแพเล็ต อันเป็นตลาดสำคัญของผู้ให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้า ซึ่งเป็นผู้ขับเคลื่อนหลักในอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าทางอากาศ

นอกจากเครื่องบินขนส่งสินค้าจะสามารถบรรทุกสินค้าที่บรรจุบนแพเล็ตสินค้าได้แล้ว เครื่องบินประเภทนี้ยังมีความยืดหยุ่นและสามารถใช้ในการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่ได้อีกด้วย ในตลาดการขนส่งสินค้าทางอากาศนั้นมีสายการบินที่มีความเชี่ยวชาญและมุ่งเน้นบริการขนส่งด้วยเครื่องบินขนส่งสินค้าโดยเฉพาะ โดยพวกเขามักจะใช้เครื่องบินขนส่งสินค้าหลายรุ่นร่วมกัน ตั้งแต่เครื่องที่มีขนาดเล็กกว่า อย่าง 747F ไปจนถึงเครื่องบิน รุ่น AN-124-100 ซึ่งมีขนาดห้องบรรทุกสินค้ากว้าง พิสัยการบินระยะไกล และยังสามารถยกขนสินค้าได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พิเศษในการขนย้ายขึ้นเครื่องแต่อย่างใด

ขณะที่ตลาดเฉพาะกลุ่มผู้เล่นส่วนใหญ่ในอุตสาหกรรมฯ จะยังคงจัดการขนส่งสินค้าด้วยเครื่องบินขนส่งสินค้ามากขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์จากเครื่องบินประเภทนี้ ซึ่งการขนส่งสินค้าในลักษณะนี้จำเป็นจะต้องเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าและบริษัทผู้รับจัดการขนส่งสินค้า รวมไปถึงสิ่งที่สายการบินจะต้องเตรียมพร้อมเพื่อให้การขนส่งเป็นไปอย่างราบรื่นด้วย

เนื่องจากขนาดของสินค้าที่มีใหญ่เป็นพิเศษ กำหนดการขนส่งที่เร่งรัด และปลายทางที่ห่างไกล ทำให้การขนส่งสินค้าขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมาก (oversized cargo) เป็นสิ่งที่ท้าทายอย่างยิ่ง ด้วยเหตุนี้ ทางสายการบินจึงต้องมีการร่างภาพการดำเนินงานให้ชัดเจนที่สุด เพื่อให้แผนการทำงานทุกขั้นตอนเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยที่สุด

ทั้งนี้ เพื่อให้ได้ข้อมูล เคล็ดลับ และสิ่งที่ต้องตระหนักถึงจากมุมมองของสายการบินขนส่งสินค้า เราจึงได้พูดคุยกับสายการบินขนส่งสินค้าระดับโลก อย่าง Volga-Dnepr เพื่อให้เข้าใจถึงข้อมูลในเชิงลึกของการเตรียมการในการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมากให้เป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย

ขนาด น้ำหนัก และการวัดระยะ
สำหรับการขนส่งสินค้าที่มีขนาดใหญ่และน้ำหนักมากนั้น สิ่งสำคัญที่ควรรู้คือขนาด ระยะ และน้ำหนักที่แม่นยำของสินค้า เนื่องจากผู้รับขนส่งสินค้าต้องวางแผนการยกขนและขนถ่ายสินค้า และยังต้องจัดวางให้น้ำหนักของสินค้ามีความสมดุลกัน

อันดับแรก วิศวกรวางแผนการยกขนสินค้าประจำสายการบินจะต้องได้รับเอกสารแสดงรายการบรรจุหีบห่อที่ชัดเจน ถูกต้องแม่นยำ และเข้าใจได้เพื่อทำการประเมิน เอกสารดังกล่าวต้องระบุชื่อตำแหน่งของสินค้า จำนวนสินค้าในแต่ละตำแหน่ง ระยะโดยรวมของสินค้า (ความยาว ความกว้าง และความสูง) และน้ำหนักของสินค้าแต่ละชิ้น เนื่องจากการขนส่งสินค้านี้เป็นการขนส่งระหว่างประเทศ ดังนั้น การระบุหน่วยหรือมาตรวัดระยะและน้ำหนักจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก รูปแบบที่เหมาะสมในการส่งข้อมูลทั้งหมดคือการสรุปมาในรูปแบบของ XL เนื่องจากจะช่วยย่นเวลาในการปฎิบัติงานให้แก่วิศวกรและเพิ่มความรวดเร็วได้อย่างมีนัยสำคัญ

ในบางครั้งสินค้าขนาดใหญ่และสินค้าที่มีน้ำหนักมากก็ต้องอาศัยการวาดแบบร่างในเชิงเทคนิค รวมไปถึงการร่างฐานของสินค้า เพื่อให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างราบรื่น จึงต้องใช้การวาดร่างสินค้าแบบสามมิติสำหรับวิศวกรวางแผนการยกขนสินค้า เนื่องจากแบบสามมิติจะให้ข้อมูลสินค้าที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้วิศวกรสามารถวิเคราะห์และออกแบบอุปกรณ์ในการขนส่งสินค้าที่จำเป็นได้ นักออกแบบที่มีความเชี่ยวชาญของ Volga-Dnepr ใช้ซอฟต์แวร์ที่สามารถทำให้ขั้นตอนการออกแบบรวดเร็วยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม STP ก็ยังเป็นไฟล์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย

การตรึงและการยกขนสินค้า
การรัด ตรึง หรือทำให้สินค้าอยู่กับที่ ไม่เคลื่อนที่ระหว่างปฏิบัติการเที่ยวบินก็ถือเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างยิ่งในด้านความปลอดภัยของสินค้า เครื่องบิน และลูกเรือ ฉะนั้น วิศวกรวางแผนการยกขนสินค้าและพนักงานควบคุมการยกขนสัมภาระจึงต้องวางแผนการตรึงสินค้าอย่างรัดกุม หนึ่งในวิธีที่ใช้กันมากที่สุดในการตรึงสินค้าคือ การใช้ประโยชน์จากโซ่รัดสินค้าของเครื่องบิน โดยจำนวนโซ่ที่จะใช้ขึ้นอยู่กับน้ำหนักของสินค้า ทั้งนี้ จุดคล้องโซ่ที่มีประสิทธิภาพควรติดอยู่กับสินค้าหรือหีบห่อ โดยปกติแล้ววิศวกรวางแผนการยกขนสินค้าของ Volga-Dnepr จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับความต้องการเฉพาะสำหรับสินค้าแต่ละชิ้น ซึ่งการปฏิบัติตามคำแนะนำนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นมากในการเตรียมสินค้าสำหรับแต่ละเที่ยวบิน ส่วนใหญ่แล้วสินค้าที่มีน้ำหนักน้อยกว่า 20 ตัน จะถูกโหลดขึ้นเครื่อง An-124-100 โดยใช้ระบบเครนที่ติดตั้งกับเครื่องบิน ซึ่งนั่นหมายความว่าสินค้านั้นจะถูกยกจากรถเทรลเลอร์โดยตรงด้วยตะขอทั้งสี่ของเครนสนาม สายที่ใช้ยกควรเชื่อมต่อกับจุดยกของสินค้าหรืออยู่ใต้ฐานสินค้าโดยเปรียบเสมือนตะกร้า อย่างไรก็ตาม สินค้าและบรรจุภัณฑ์ก็ควรเหมาะสมสำหรับการโหลดสินค้าด้วยระบบเครนของเครื่องบินด้วย

บรรจุภัณฑ์
การขนส่งสินค้าขนาดใหญ่และสินค้าที่มีน้ำหนักมากมีขั้นตอนมากมายและมีความซับซ้อนสูง โดยผู้ส่งสินค้าทุกคนต่างก็ต้องการให้สินค้าได้รับการขนส่งถึงปลายทางในสภาพสมบูรณ์ ไม่ว่าสภาพอากาศ ขั้นตอนการยกขนและขนถ่ายสินค้า และการเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งสินค้าจะเป็นอย่างไร

สินค้าที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบาเหมาะจะทำการขนส่งโดยใช้ระบบเครนของเครื่องบินและมักจะถูกบรรจุมาในลังหรือกล่องไม้ สิ่งสำคัญคือการแน่ใจว่าบรรจุภัณฑ์นั้นถูกต้องตามหลักการบรรจุหีบห่อสำหรับการขนส่งสินค้าทางอากาศ ขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) และสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) สินค้าในกล่องต้องยึดแน่นกับบรรจุภัณฑ์เผื่อกรณีเกิดการเคลื่อนไหว เพื่อให้สอดรับกับองค์ประกอบทั่วไปของเครื่องบินที่มีขนาดใหญ่ที่สุด โดยเครื่องบิน An-124-100 มีค่าองค์ประกอบดังนี้ แรงขับด้านหน้า 2.3 ด้านข้าง 1.5 ด้านขึ้น 2.0 และด้านลง 2.5 สำหรับสินค้าบางชิ้น สายการบินอาจขอให้เจาะช่องที่บรรจุภัณฑ์ เพื่อยึดกับจุดเกี่ยวตะขอที่ตัวสินค้าโดยตรง

ที่สำคัญคือต้องอย่าลืมว่า บรรจุภัณฑ์ต้องไม่ปิดผนึกแบบกันอากาศถ่ายเท เนื่องจากความกดอากาศในห้องบรรทุกสินค้าจะผกผันในช่วงการไต่ระดับและการลดระดับของเครื่องบิน ซึ่งบรรจุภัณฑ์จะได้รับความเสียหายหากความกดอากาศภายในและภายนอกหีบห่อไม่เท่ากัน ตัวอย่างเช่น บรรจุภัณฑ์ที่เรียกกันว่าพลาสติกสุญญากาศจะขยายตัวขณะที่เครื่องบินไต่ระดับและหดตัวเมื่อเครื่องบินลดระดับ ด้านบรรจุภัณฑ์ของสินค้าขนาดใหญ่และสินค้าที่มีน้ำหนักมากที่ต้องโหลดด้วยเครื่องมือยกขนสินค้าแบบพิเศษนั้นมีคุณสมบัติที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง สินค้าประเภทนี้จึงต้องใช้การเชื่อมต่อโดยตรงกับจุดเกี่ยวตะขอที่ติดกับตัวสินค้า ซึ่ง Volga-Dnepr จะไม่รับขนส่งสินค้าที่ต้องตรึงในลักษณะนี้ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย

อุปกรณ์ยกขนสินค้า
สินค้าแต่ละประเภทต้องใช้วิธีการยกขนและขนถ่ายที่แตกต่างกันไป สินค้าบางชนิดเหมาะที่จะโหลดขึ้นเครื่อง An-124-100 ด้วยระบบเครนของเครื่องบิน รถที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองจะสามารถขับเข้า-ออกได้ผ่านประตูขนส่งสินค้าด้านหน้าหรือหลัง ทั้งนี้ สินค้าที่มีขนาดใหญ่ และสินค้าที่มีน้ำหนักมากจะถูกโหลดขึ้นเครื่อง An-124-100 ด้วยอุปกรณ์ยกขนสินค้าแบบพิเศษเท่านั้น ดังที่กล่าวไปข้างต้น การวาดแบบทางเทคนิคหรือแบบร่างแบบสามมิตินั้นเป็นสิ่งจำเป็นที่ใช้ในการตัดสินใจว่าสินค้านั้นๆ ควรใช้อุปกรณ์ยกขนสินค้าแบบใด ผู้เชี่ยวชาญของ Volga-Dnepr จะ ทำการออกแบบและจัดทำโครงสร้างพิเศษขึ้นเพื่อให้การยกขนและขนส่งสินค้าเหล่านี้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยการใช้ทางลาด ระบบราง และเครนเคลื่อนที่ หากเห็นว่ามีความเหมาะสม

สินค้าอันตราย
วัตถุและสินค้าบางอย่าง เช่น ระเบิด ก๊าซความดัน ของเหลวไวไฟ และอื่นๆ จัดเป็นสินค้าอันตราย สินค้าประเภทนี้ต้องอาศัยการเตรียมความพร้อมและบรรจุภัณฑ์แบบพิเศษเพื่อให้สอดรับกับข้อกำหนดของ ICAO และ IATA สินค้าอันตรายบางชนิดถูกห้ามขนส่งทางอากาศไม่ว่ากรณีใดก็ตาม โดยหากทำการแจ้งประเภทของสินค้าที่อยู่ในเอกสารแสดงรายการบรรจุหีบห่อกับสายการบินได้เร็วเท่าไร การขนส่งก็จะถูกจัดการได้อย่างไร้ปัญหาและตรงเวลามากขึ้นเท่านั้น และที่สำคัญที่สุดคือจะเป็นไปตามมาตรฐานอุตสาหกรรมสากล

สภาพแวดล้อมของเที่ยวบิน
สินค้าบางชนิดอาจไวต่อสภาพแวดล้อม เช่น อุณหภูมิและความกดอากาศ หากสินค้าที่จะทำการขนส่งมีข้อจำกัดหรือข้อพึงระวังด้านสภาพแวดล้อมในห้องบรรทุกสินค้าควรแจ้งให้สายการบินทราบโดยเร็วที่สุด Volga-Dnepr กล่าวว่า ผู้เชี่ยวชาญจะต้องพร้อมในการหารือเรื่องนี้อยู่เสมอ เพื่อหาโซลูชั่นที่เหมาะสมที่สุด

การลงพื้นที่สำรวจ
บางครั้งข้อมูลทั่วไปก็ไม่เพียงพอ ที่จะการันตี ความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และการขนส่งแบบไร้รอยต่อได้ ทีมของ Volga-Dnepr จึงต้องมีการลงพื้นที่เพื่อความมั่นใจ การลงพื้นที่สำรวจเป็นสิ่งจำเป็นในการจัดการทางด้านวิศวกรรมและการประเมินการขนส่งสินค้า เพื่อให้ได้วิธีที่ดีกว่าและมองเห็นภาพรวมของขนาดอุปกรณ์ที่จะนำมาใช้งาน

ท่าอากาศยาน การขอใบอนุญาต โครงสร้างพื้นฐาน และกำลังคน
โครงสร้างพื้นฐานของสนามบินมีความสำคัญมากต่อการปฏิบัติการขนส่งสินค้าที่มีขนาดใหญ่ กล่าวคือ ควรมีความเหมาะสมด้านพื้นที่ในการยกขนและขนถ่ายสินค้า ทางขึ้น-ลงเครื่องบินที่ต้องสอดรับกับน้ำหนักการลงจอดของเครื่องบินที่วางแผนไว้ ทางขับและลานจอดต้องพร้อมสำหรับขั้นตอนการโหลดและการขนถ่ายสินค้า รวมไปถึงต้องมีที่พักสำหรับลูกเรือ

เมื่อผู้ส่งสินค้าให้ข้อมูลผู้รับแล้ว สายการบินจะเริ่มดำเนินการขอใบอนุญาตสำหรับเที่ยวบินเช่าเหมาลำ ซึ่งปกติจะขึ้นอยู่กับ 1. ประเภทของสินค้าที่บรรทุกบนเครื่องบิน 2. เวลาโดยประมาณก่อนเครื่องออก ในทุกประเทศจะมีข้อกำหนดและขั้นตอนของการออกใบอนุญาตเที่ยวบิน ดังนั้น ส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับเวลาในการดำเนินการที่กำหนดโดยเจ้าหน้าที่การบินพลเรือนของแต่ละประเทศ แม้คำร้องขอเที่ยวบินเช่าเหมาลำแบบเร่งด่วนจะทำให้ผู้รับขนส่งสินค้าหลายรายทำงานยากขึ้น แต่ทีมผู้เชี่ยวชาญของ Volga-Dnepr ที่มีประสบการณ์ในการปฏิบัติงานเที่ยวบินแบบเช่าเหมาลำมากว่า 28 ปี ก็ทราบกระบวนการทั้งหมดของแต่ละประเทศเป็นอย่างดี และสามารถขอใบอนุญาตสำหรับการปฏิบัติการเที่ยวบินเช่าเหมาลำที่ลูกค้าต้องการได้อีกด้วย

การได้มาซึ่งใบอนุญาตทุกชนิดสำหรับปฏิบัติการเที่ยวบินแบบเช่าเหมาลำก็เป็นขั้นตอนอย่างหนึ่ง แต่อีกประเด็นหนึ่งคือขั้นตอนการยกขนและขนถ่ายสินค้า บางครั้งกำลังคนในท่าอากาศยานก็ไม่เพียงพอ ด้วยเหตุนี้ Volga-Dnepr จึงต้องมีลูกเรือสำหรับงานซ่อมบำรุงและผู้เชี่ยวชาญด้านการขนถ่ายสินค้าสำรองไว้เพิ่มเติมในพื้นที่ เพื่อจัดหาโซลูชั่นด้านโลจิสติกส์คุณภาพสูงให้แก่ลูกค้า ยิ่งไปกว่านั้น ภายใต้แผนการดำเนินงานแบบเช่าเหมาลำ Volga-Dnepr มักจะส่งลูกเรือไปเพิ่มเติม เพื่อให้มั่นใจว่าการปฏิบัติการเที่ยวบินเป็นไปอย่างตรงต่อเวลา

การปฏิบัติการหลังเที่ยวบิน
บางครั้งลูกค้าอาจต้องการผู้ช่วยเพิ่มเติมในการดำเนินพิธีการศุลกากรและคลังสินค้า ผู้เชี่ยวชาญที่มากประสบการณ์ของ Volga-Dnepr จึงมอบบริการแบบครบวงจรให้แก่ลูกค้า โดยอาศัยการเป็นผู้มีประสบการณ์ในธุรกิจนี้มาอย่างยาวนาน รวมทั้งการมีความรู้อย่างลึกซึ้งในขั้นตอนการดำเนินการต่างๆ

Volga-Dnepr มีประสบการณ์ที่พิสูจน์ได้ในด้านการจัดการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบ โดยใช้บริการด้านโลจิสติกส์ทางถนน ทางราง และทางทะเล เพื่อให้สินค้าไปถึงปลายทางสุดท้ายหรือโรงงานผลิต

อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Airfreight Logistics เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Airfreight Logistics หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้ข้อแนะนำในการออกแบบคลังสินค้าอันตราย
บทความถัดไปบทบาทสำคัญของเครื่องบินขนส่งสินค้าในอุตสาหกรรมขนส่งสินค้าทางอากาศ
Pichanon Paoumnuaywit
tech and history geek, who enjoys hunting and photographing dark skies and milky way