DB Schenker ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ชั้นนำ ขยายความครอบคลุมสำหรับโซลูชันโลจิสติกส์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในการขนส่งสินค้าทางอากาศมากยิ่งขึ้น โดยลูกค้าสามารถเลือกใช้เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน (SAF) ในการขนส่งสินค้าไปยังปลายทางทุกแห่งทั่วโลก ทั้งยังไม่มีการจำกัดประเภทของอากาศยานและสายการบินผู้ให้บริการด้วย
Mr. Jochen Thewes ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท DB Schenker กล่าวว่า “เรารู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่งกับโครงการนำร่องที่สามารถพลิกเกมทางธุรกิจได้ของเรา ซึ่งเราได้ร่วมมือกับพันธมิตรที่ไว้ใจได้ อย่าง Lufthansa Cargo และวันนี้เรากำลังก้าวสู่อีกขั้นของการเริ่มต้นเครือข่ายการขนส่งสินค้าทางอากาศระดับโลกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เราได้สั่งซื้อเชื้อเพลิงชีวภาพปริมาณมากเพื่อผลักดันอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าที่ปลอดคาร์บอน โดยลูกค้าของ DB Schenker สามารถจองบริการขนส่งสินค้าที่ขนส่งผ่านยานพาหนะที่ใช้เชื้อเพลิง SAF ได้บนทุกเส้นทางการค้า เพื่อขนส่งสินค้าไปยังท่าอากาศยานปลายทางนับพันแห่งทั่วโลก ซึ่งการมอบความยืดหยุ่นครั้งใหม่นี้ถือเป็นปัจจัยแห่งความสำเร็จและนับเป็นเรื่องที่ดีต่อสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากทุกหน่วยของเชื้อเพลิงชีวภาพล้วนมีความหมาย”
Mr. Thorsten Meincke สมาชิกคณะกรรมการระดับโลกฝ่ายการขนส่งสินค้าทางอากาศและทางทะเล บริษัท DB Schenker กล่าวว่า “การลดรอยเท้าคาร์บอนในซัพพลายเชนนั้นเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ ไม่เพียงแค่ในอนาคตเท่านั้น แต่เรายังสามารถทำได้จริงในปัจจุบัน แน่นอนว่า การผลักดันด้านความยั่งยืนมาพร้อมราคาที่ต้องจ่าย แต่ณ ตอนนี้ ความยั่งยืนถือเป็นทางเลือกที่สามารถเข้าถึงได้ ไม่มีลูกค้ารายใดของ DB Schenker ที่ต้องการใช้เชื้อเพลิงอากาศยานแบบดั้งเดิมในการขนส่งสินค้าทางอากาศอีกต่อไป เราหวังว่า ข้อความนี้จะยิ่งเพิ่มแรงผลักดันเพื่อสร้างความยั่งยืนในอุตสาหกรรมการขนส่งสินค้าทางอากาศมากยิ่งขึ้น เนื่องจากลูกค้าที่ได้ทดสอบหรือใช้เชื้อเพลิง SAF เป็นประจำอยู่แล้วล้วนพึงพอใจกับผลลัพธ์เป็นอย่างมาก”
ทั้งนี้ บริการใหม่ที่เปิดให้บริการครอบคลุมปลายทางทั่วโลกนี้จะเข้ามาเป็นส่วนเสริมสำคัญสำหรับบริการรายสัปดาห์ ในเส้นทางระหว่างเยอรมนีและจีนของ DB Schenker ซึ่งเปิดให้บริการในช่วงฤดูใบไม้ผลิของปี 2021 เป็นต้นมา และยังคงเป็นบริการขนส่งสินค้าทางอากาศแบบประจำเพียงบริการเดียวที่สามารถให้บริการด้วยเชื้อเพลิง SAF ได้อย่างสมบูรณ์ สำหรับเที่ยวบินไปกลับกว่า 150 เที่ยว ที่ให้บริการโดย Lufthansa Cargo ได้ช่วยลดการปล่อยมลภาวะไปแล้วเทียบเท่ากับปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ 40,000 ตัน และทางบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าเจรจาข้อตกลงด้านเชื้อเพลิง SAF กับสายการบินพันธมิตรรายอื่นๆ ต่อไป ยกตัวอย่างเช่น ดีลการสั่งซื้อเครดิต SAF กับ Singapore Airlines ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้
อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Airfreight Logistics เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Airfreight Logistics หรือคลิกที่นี่