Kuehne+Nagel ขยายบริการโลจิสติกส์ทางอากาศในท่าอากาศยาน JFK

0
81

เมื่อเร็วๆ นี้ Kuehne+Nagel ได้ขยายศูนย์ปฏิบัติการในท่าอากาศยานนานาชาติ John F. Kennedy (JFK) โดยศูนย์ปฏิบัติการแบบอาคารเดี่ยว ขนาดพื้นที่ 4,500 ตารางฟุต ได้รับการออกแบบตามแนวปฏิบัติและข้อบังคับใช้สำหรับการจัดการสินค้าชีววิทยาศาสตร์ อาหาร และผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ (GxP) พร้อมพื้นที่ควบคุมอุณหภูมิ และมีพื้นที่คลังสินค้าเพิ่มเติมอีก 10,000 ตารางฟุต อีกยังมีการเพิ่มเติมในส่วนของสำนักงานที่ทันสมัยและยกระดับความสามารถในปฏิบัติการอีกด้วย

โดยที่ศูนย์ปฏิบัติการมีการแบ่งพื้นที่ควบคุมอุณหภูมิออกเป็นสองส่วนเพื่อรองรับสินค้าที่มีช่วงอุณหภูมิแตกต่างกัน โดยสามารถรองรับช่วงอุณหภูมิ +2 จนถึง +25 องศาเซลเซียส และได้รับการออกแบบเฉพาะสำหรับปฏิบัติการสินค้าเวชภัณฑ์และสินค้าประเภทขอวสดเสียง่าย ทั้งยังได้รับการออกแบบตามมาตรฐานหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการกระจายสินค้า (Good Distribution Practice: GDP) และ CEIV ของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA)

“เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ยกระดับและขยายความสามารถในการปฏิบัติการในท่าอากาศยาน JFK ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการรองรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ เพื่อสนับสนุนกลุ่มลูกค้าทั้งในปัจจุบันและอนาคตในกลุ่มอุตสาหกรรมเวชภัณฑ์ การบินและอวกาศ เซมิคอนดักเตอร์ สินค้าประเภทของสดเสียง่าย และอุตสาหกรรมอื่นๆ ด้วยศูนย์ปฏิบัติการที่มีความโดดเด่นและให้บริการโดยบริษัทที่ลูกค้าสามารถไว้วางใจได้” Mr. Greg Martin รองประธานระดับสูง ฝ่ายโลจิสติสก์ทางอากาศ บริษัท Kuehne+Nagel ประจำทวีปอเมริกาเหนือ กล่าว “ผมมีความภูมิใจอย่างมากกับการลงทุนในครั้งนี้ เราได้ยกระดับซัพพลายเชนควบคุมอุณหภูมิด้วยบริการรับจัดการสินค้าควบคุมอุณหภูมิอย่างครบวงจรในศูนย์ปฏิบัติการ ควบคู่ไปกับการขยายบริการสินค้าเวชภัณฑ์และการสนับสนุนในอเมริกาเหนือ”

สถานีบรรจุสินค้า (CFS) แบบทัณฑ์บนซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับท่าอากาศยาน JFK นี้เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง โดยติดตั้งด้วยช่องประตูรองรับและขนถ่ายสินค้าทั้งหมด 20 จุด และสอดคล้องตามหลักเกณฑ์ GDP และ C-TPAT พร้อมการรักษาความปลอดภัยผ่านระบบ CCTV ตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งยังมีการยกระดับความสามารถในการจัดการตู้ ULD โดยจัดการสินค้าให้เก็บร่วมกันโดยมีจุดสัมผัสน้อยลง ช่วยให้ผู้ใช้บริการวางใจได้ถึงความสมบูรณ์ของสินค้า โดยนอกจากใบรับรองที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว สถานี CFS แห่งนี้ยังได้ใบรับรอง EngineChain ของ Kuehne+Nagel และให้บริการโซลูชันโลจิสติกส์สำหรับสินค้าประเภทแบตเตอรีและยานยนต์สำเร็จรูปอีกด้วย

ทั้งนี้ อุตสาหกรรมเวชภัณฑ์และเซมิคอนดักเตอร์ เป็นหนึ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตตามแนวทาง Roadmap 2026 ซึ่งเป็นแผนการเชิงกลยุทธ์ในระยะเวลาสี่ปีของ Kuehne+Nagel ตามวิสัยทัศน์ของปี 2030 ของบริษัทฯ ในการเป็นพันธมิตรซัพพลายเชนที่มีความน่าเชื่อถือสูงสุดที่จะช่วยสนับสนุนผู้ใช้บริการให้ก้าวสู่อนาคตที่ยั่งยืน


อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Airfreight Logistics เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Airfreight Logistics หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้DHL Global Forwarding ประกาศความสำเร็จในการควบรวมกิจการ Danzas AEI Emirates
บทความถัดไปWFS ลงนามสัญญาสามปีร่วมกับ Air China Cargo ให้บริการจัดการยกขนสินค้าภาคพื้นใน Los Angeles