ในยุคที่ขีดความสามารถทางการแข่งขันโลจิสติกส์ไม่จำกัดอยู่ที่บริการใดบริการหนึ่ง แต่ถูกกำหนดด้วยการนำเสนอบริการที่ครบจบในที่เดียว ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ต่างจำเป็นที่จะต้องพัฒนาขอบข่ายบริการ พร้อมทั้งยกระดับประสิทธิภาพของบริการอยู่เสมอ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและเป็นผู้ให้บริการที่ลูกค้าไว้วางใจ

ในฐานะผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศครบวงจรที่เข้าใจความท้าทายนี้ Sino Logistics Corporation (SINO) จึงพร้อมที่จะก้าวไปอีกขั้น ด้วยการพัฒนาศักยภาพของบริการรับจัดการขนส่งสินค้าทางอากาศ ภายใต้ SNC Cargo Services ร่วมกับ A.S. Logistics เพื่อส่งมอบบริการที่เชื่อถือได้และตอบโจทย์ทุกกลุ่มลูกค้าได้อย่างแท้จริง

นิตยสาร LM ฉบับนี้ได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณนันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Sino Logistics Corporation และคุณสิทธิกร ทับเที่ยง กรรมการผู้จัดการ บริษัท A.S. Logistics เกี่ยวกับแนวทางในการดำเนินธุรกิจร่วมกัน ตลอดจนแผนการขยายศักยภาพของบริการต่อไปอีกในอนาคต

A Partnership Built for the Next Generation of Logistics

คุณนันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท Sino Logistics Corporation

A.S. Logistics เป็นผู้ให้บริการรับจัดการขนส่งสินค้า รวมถึงบริการโลจิสติกส์อื่นๆ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการขนส่งสินค้าทางอากาศเป็นพิเศษ ด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 26 ปี บริษัทฯ จึงสามารถนำเสนอบริการโลจิสติกส์ทางอากาศแบบไร้รอยต่อที่ไม่จำกัดเฉพาะการขนส่งสินค้าทั่วไป แต่ยังพร้อมให้บริการขนส่งสินค้าที่มีความซับซ้อนด้วย ขณะที่ SINO เป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรที่มีความเชี่ยวชาญในหลายด้าน โดยเฉพาะการขนส่งทางทะเล ทั้งสองบริษัทฯ จึงเล็งเห็นโอกาสอันดีในการร่วมมือและแบ่งปันความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อเสริมความแข็งแกร่งและเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการมากยิ่งขึ้น  

“เราตั้งใจขยายบริการและเพิ่มศักยภาพของการขนส่งทางอากาศของ SINO ให้มากยิ่งขึ้น การร่วมมือกับ A.S. Logistics จะช่วยให้เรามี Direct Stock กับสายการบินโดยตรง ซึ่งส่งผลให้เรามีความแข็งแกร่งสำหรับการแข่งขันสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปัจจุบันที่เราใช้บริการผ่านตัวแทนโหลดสินค้า อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนและเอื้อประโยชน์ให้กับลูกค้ามากยิ่งขึ้น” คุณนันท์มนัส กล่าว

คุณสิทธิกร ทับเที่ยง กรรมการผู้จัดการ บริษัท A.S. Logistics

ด้วยประสบการณ์และเครือข่ายพันธมิตรที่ A.S. Logistics สั่งสมในอุตสาหกรรมฯ มาอย่างยาวนาน ถือเป็นข้อได้เปรียบสำคัญในตลาดการขนส่งทางอากาศ

“เราเป็นสมาชิกของสมาคม และองค์กรในอุตสาหกรรมขนส่งสินค้าทางอากาศ ซึ่งบริษัทสมาชิกจะต้องมีมาตรฐาน รวมถึงมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด นอกจากนี้ การที่เราเป็นพันธมิตร และร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับสายการบินมาอย่างยาวนานช่วยให้เราสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถนำเสนอราคาที่มีศักยภาพในการแข่งขันให้กับลูกค้า พร้อมเพิ่มข้อได้เปรียบในบริการของเรามากยิ่งขึ้น” คุณสิทธิกรกล่าว

ในทางเดียวกัน SINO เป็นบริษัทที่มีสายสัมพันธ์อันดีกับสายการเดินเรือต่างๆ มาอย่างยาวนาน ดังนั้น เมื่อทั้งสองบริษัทร่วมกันแบ่งปันประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และเครือข่ายพันธมิตร ทุกฝ่ายจึงเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าจะสามารถขยายฐานลูกค้าและต่อยอดการเติบโตได้มากกว่าที่เคย

Empowering Customers Through Integrated Expertise

นอกเหนือจากการใช้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของบริษัท A.S. Logistics แล้ว คุณนันท์มนัสยังได้เปิดเผยแผนการพัฒนาบริษัท SNC Cargo Services ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ SINO ที่มุ่งเน้นธุรกิจรับจัดการขนส่งทางอากาศ โดยให้คุณสิทธิกรซึ่งเป็นผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมฯ ยาวนานกว่า 39 ปี เข้ามาบริหารบริษัท SNC Cargo Services ควบคู่กับ A.S. Logistics เพื่อทำให้ SNC มีศักยภาพในการเป็นตัวแทนขายพื้นที่ระวางขนส่งสินค้าของสายการบินต่างๆ ให้ได้ภายในสองปี

นอกจากนี้ SINO ยังจะใช้บริการด้านการจัดสรรพื้นที่ระวางสินค้าทางอากาศผ่าน A.S. Logistics ให้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและนำเสนอราคาที่ดียิ่งขึ้นแก่ลูกค้า อีกทั้ง SINO ยังได้ลงทุนในระบบการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ในโครงการ VOYA เพื่อรองรับการทำงานร่วมกับ A.S. Logistics ในอนาคตด้วยเช่นกัน

Building Synergies Beyond Air and Ocean

นอกเหนือจากการยกระดับประสิทธิภาพการให้บริการแล้ว การผนึกกำลังกับ A.S. Logistics ยังสอดคล้องกับแผนขยายธุรกิจสู่ระดับภูมิภาคของ SINO คุณนันท์มนัสกล่าวว่า “แผนการขยายธุรกิจและเครือข่ายบริการของ SINO สู่ภูมิภาคต่างๆ ครอบคลุมทั้งการขยายเส้นทางการค้าในเอเชีย ยุโรป และตะวันออกกลาง โดยปัจจุบัน SINO ได้เริ่มจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในประเทศมาเลเซียและเวียดนาม และจะขยายสาขาไปยังอินโดนีเซียอีกในอนาคต ดังนั้น การร่วมมือกับ A.S. Logistics จึงช่วยรองรับการขยายฐานลูกค้าทั้งการขนส่งสินค้าทางทะเลและทางอากาศในภูมิภาคดังกล่าว เนื่องจาก A.S. Logistics สามารถให้บริการขนถ่ายชิปเมนท์จากกัมพูชา เวียดนาม จีน หรือตะวันออกกลาง เพื่อส่งต่อไปยังยุโรปหรืออเมริกาได้”

เนื่องจาก SINO และ A.S. Logistics ไม่ได้มองตัวเองเป็นเพียงผู้รับจัดการขนส่งสินค้าที่มีความเชี่ยวชาญด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น แต่เป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรชั้นนำ ดังนั้น การร่วมมือครั้งนี้จึงจะช่วยยกระดับศักยภาพในการนำเสนอบริการโลจิสติกส์ทางทะเลและอากาศ การขยายขอบข่ายความเชี่ยวชาญและเครือข่ายพันธมิตร ซึ่งจะช่วยให้ทั้งสองบริษัทฯ สามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตได้อย่างรวดเร็วและแข็งแกร่ง

ทั้ง SINO และ A.S. Logistics เชื่อมั่นในการก้าวไปข้างหน้าและเผชิญกับความท้าทายอย่างไม่หยุดยั้ง การควบรวมกิจการในครั้งนี้จึงแสดงถึงความมุ่งมั่นของผู้บริหารทั้งสองที่พร้อมผนึกกำลังรับมือกับทุกความท้าทาย และเตรียมพร้อมต่อยอดการเติบโตในทุกด้าน พร้อมยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงาน เพื่อส่งมอบบริการโลจิสติกส์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นไปอีก


อัพเดตข่าวสารและบทความที่น่าสนใจในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก่อนใคร ผ่าน Line Official Account @Airfreight Logistics เพียงเพิ่มเราเป็นเพื่อน @Airfreight Logistics หรือคลิกที่นี่

บทความก่อนหน้านี้Dachser เดินหน้าขยายความครอบคลุมบริการโลจิสติกส์สำหรับไวน์และสุราในเอเชียแปซิฟิก
บทความถัดไปCEVA Logistics เริ่มก่อสร้างศูนย์ปฏิบัติการโลจิสติกส์เภสัชภัณฑ์ใน Strasbourg ฝรั่งเศส